ปี 2017 เป็นอีกปีที่พฤติกรรมการใช้งานแอปพลิเคชันของชาวดิจิทัลเปลี่ยนแปลงไป เพราะการสำรวจล่าสุดจาก Gartner พบแล้วว่าอัตราการใช้งานโมบายแอปพลิเคชันประเภทรับส่งข้อความถูกใช้งานมากขึ้นชัดเจน เช่นเดียวกับแอปพลิเคชันช้อปปิ้ง สวนทางแอปพลิเคชันประเภทเครือข่ายสังคมหรือแอปพลิเคชันดูวิดีโอที่มีอัตราใช้งานน้อยลง โดยภาพรวมการใช้งาน mobile app นั้นลดลงมากกว่า 33%
จริงๆ แล้วต้องบอกว่ารูปแบบการใช้งานแอปพลิเคชันของชาวโลกเปลี่ยนไปทุกปี ปีนี้ก็เช่นกัน ไม่เพียงการใช้งานแอปพลิเคชันที่ลดลงกว่า 33% แต่การสำรวจยังพบว่าผู้คนส่วนใหญ่ใช้งานประมาณ 5 แอปพลิเคชันต่อเดือนมากขึ้น เนื่องจากตัวเลขการใช้งาน 6-10 แอปพลิเคชันต่อเดือนลดลงกว่า 6.2% ต่อปี
ถามว่าแอปพลิเคชันใดที่ถูกใช้น้อยลง คำตอบคือแอปพลิเคชันประเภทเครือข่ายสังคมอื่นที่ไม่ใช่ค่ายรายใหญ่ นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชันชมวิดีโอ รวมถึงแอปพลิเคชันด้านแผนที่ก็มีจำนวนการถูกเปิดใช้งานน้อยกว่าเดิม ทั้งหมดนี้เป็นผลจากการรวมหลายบริการไว้ในที่เดียว ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ผู้ให้บริการล้วนเดินมาในทางเดียวกัน
Jessica Ekholm ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Gartner อธิบายเรื่องนี้ว่าเพราะที่ผ่านมา ทุกคนรู้ดีว่าผู้ใช้ต้องการประสบการณ์ลื่นไหลสะดวกสบาย ทำให้หลายแอปพลิเคชันพยายามพัฒนาตัวเองให้มีบริการครบวงจร เพื่อให้ผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลาเปิดแอปพลิเคชันอื่น เช่นการชมวิดีโอได้ทันที หรือการรับข้อมูลสถานที่ได้โดยไม่ต้องเปิดแอปแผนที่ แนวคิดนี้ทำให้อัตราการใช้งานแอปพลิเคชันต่อบุคคลลดลงก้าวกระโดด
แม้โลกกำลังจะเข้าสู่ยุค post-app era แต่ก็ยังมีแอปพลิเคชันกลุ่มดาวรุ่งที่ถูกเปิดใช้งานมากขึ้น ได้แก่กลุ่มรับส่งข้อความสนทนา messaging, กลุ่มผู้ช่วยส่วนตัว personal assistant (VPA) และกลุ่มช้อปปิ้ง ซึ่งสะท้อนวิถีชีวิตชาวดิจิทัลได้เป็นอย่างดี
ประเด็นความฮอตของแอปพลิเคชัน messaging นั้นชัดเจนอยู่แล้ว แต่ความแรงของแอปกลุ่ม VPA นั้นน่าสนใจมากกว่า จุดนี้ Ekholm ให้ข้อมูลว่าแอปพลิเคชันกลุ่ม VPA ถูกนำมาตรวจสอบสภาพอากาศมากกว่า 70%, ค้นหาสถานที่ราว 44% และติดตามข่าวสารมากกว่า 44% ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเปิดแอปพลิเคชันเหล่านี้อีกต่อไป
ที่มา: MarketingDive