การเสิร์ชด้วยเสียงทำให้ตลาดการซื้อสินค้าด้วยเสียงโตไปด้วย ล่าสุดมีการประเมินว่าอุตสาหกรรมการจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการด้วยเสียงจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2022 ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างลงทุนไม่เพียงการสร้างแบรนด์ที่เห็นทางตาเท่านั้น แต่กำลังสร้างในรูปเสียงด้วย ล่าสุดคือ Mastercard ที่เปิดตัวโลโก้เสียงซึ่งตอกย้ำว่าเป็นของอีกชิ้นที่แบรนด์ดังควรมี

สร้างแบรนด์ผ่านเสียง

ย้อนไปเมื่อปี 2016 บริษัทการเงินอย่าง Mastercard เปิดตัวโลโก้ใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี และในปีนี้ก็ประกาศว่าจะลบชื่อของแบรนด์ออกจากสัญลักษณ์ แล่าสุดบริษัทบัตรเครดิตชื่อดังกำลังผลักดันแบรนด์ให้ก้าวเข้าสู่การค้ายุคใหม่ด้วยการสร้างแบรนด์ทางเสียง ซึ่งซาวด์แทร็กนี้จะเป็น “เสียงธุรกรรม” ที่ Mastercard จะเล่นในสื่อและแพลตฟอร์มเมื่อผู้ใช้เช็คเอาท์หลังชำระเงินเรียบร้อยแล้ว

Mastercard ระบุว่าซาวด์แทร็กนี้ถูกพัฒนาร่วมกับนักดนตรี ศิลปิน และเอเจนซี่จากทั่วโลก” หนึ่งในนั้นมี Mike Shinoda แห่งวง Linkin Park ซึ่งถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ว่าเสียงของ Mastercard จะร่วมสมัยเต็มที่

การเปลี่ยนแปลงของ Mastercard สอดคล้องกับการพัฒนาแบรนด์ใหญ่รายอื่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทุกวันนี้เหล่าแบรนด์ต่างต้องมีเอกลักษณ์โดดเด่นและเป็นที่รู้จักผ่านบรรจุภัณฑ์ ร้านค้า หรือป้ายโฆษณา แต่ก็ต้องไม่ลืมโฆษณาดิจิทัล แอป และพอดแคสต์ โดยแพลตฟอร์มคืออินเทอร์เฟซแบบไม่มีหน้าจอ เช่น ระบบผู้ช่วยส่วนตัวของ Amazon และ Google กำลังจะเป็นเป้าหมายใหม่ที่แบรนด์กำลังเร่งขยายฐานบนคติว่าเริ่มก่อนได้เปรียบ

ประเด็นนี้ Mastercard ยอมรับว่าหากไม่มีหน้าจอ ผู้ใช้จะไม่สามารถเห็นได้ว่า Mastercard มีลักษณะอย่างไร แต่ทุกคนจะสามารถได้ยินได้อย่างชัดเจนว่านี่คือ Mastercard

แน่นอนว่า Mastercard ไม่ใช่คนเดียวที่ลงทุนสร้างแบรนด์ด้วยเสียง คู่แข่งอย่าง Visa ก็พยายามที่จะใช้ประโยชน์จากเสียงเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ยังมี Coca-Cola ที่เอาเสียง “เปราะฟู่” มาใช้ รวมถึงอีกหลายรายที่เริ่มไปก่อน และกำลังจะได้เปรียบในยุคหน้า

ที่มา: : FastCompany