มีรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศหลาย ๆ แห่ง ที่อ้างว่า Uber บริการ Ride-Sharing ชื่อดังอาจอยู่ระหว่างการเตรียม “ขาย” ธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้กับ Grab จากสิงคโปร์แล้ว
ข่าวชิ้นนี้ได้อ้างอิงผู้ใกล้ชิดกับ Uber แต่ไม่ประสงค์ออกนาม ซึ่งคาดว่ามาจากสถานการณ์การแข่งขันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความใกล้เคียงกับสถานการณ์เมื่อครั้งที่ Uber ขายธุรกิจให้กับ Didi ในจีน นั่นคือมีเจ้าตลาดที่แข็งแกร่งอยู่ และหากแข่งกันต่อไป ก็อาจนำไปสู่สงครามราคาที่เจ็บตัวกันทั้งสองฝ่าย เป็นไปได้ด้วยว่า กลยุทธ์ที่ Uber จะใช้ในครั้งนี้ก็ไม่ต่างจากสมัยที่เคยใช้กับจีนแผ่นดินใหญ่ นั่นคือการแลกกับหุ้นจำนวนหนึ่งของ Grab
ปัจจุบัน Grab ให้บริการทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล, แท็กซี่ และบริการคาร์พูลในเมืองต่าง ๆ มากกว่า 100 เมืองทั่วภูมิภาค รวมถึงยังได้รับเงินลงทุนจาก SoftBank และนักลงทุนอื่น ๆ มาอีกกว่า 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งทำให้สถานะของ Grab ในภูมิภาคนี้ถือว่าแข็งแกร่งมาก
ด้าน Uber เองนั้น ซีอีโอคนใหม่อย่าง Dara Khosrowshahi ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งก็อยู่ระหว่างการ “ทำความสะอาดบริษัท” เพื่อเรียกชื่อเสียงและความมั่นใจกลับคืนมา รวมถึงวินัยทางการเงินด้วย เหตุเพราะ Uber ขาดทุนไปมากถึง 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2017 ซึ่งคงไม่ดีแน่ต่อสถานการณ์ของบริษัทที่กำลังเตรียมการจะเข้าตลาดหุ้น อีกทั้งเขายังเคยให้ความเห็นเอาไว้ในงาน the Goldman Sachs Technology and Internet Conference ที่ซานฟรานซิสโกด้วยว่า การเข้าไปแข่งขันกับเจ้าถิ่นในตลาดต่าง ๆ นั้นเป็นเรื่องยาก
ขณะที่ด้าน SoftBank การตัดสินใจเช่นนี้ของ Uber อาจเป็นประโยชน์ต่อ SoftBank เนื่องจากจะทำให้ SoftBank มีอิทธิพลมากขึ้นในวงการ Ride-Sharing โดยบริษัทมีหุ้นใน Grab, Digi ในจีน, Ola ในอินเดีย และ 99 ในบราซิลด้วย นอกจากนี้ SoftBank ยังแสดงความสนใจในธุรกิจของ Lyft คู่แข่ง Uber จากสหรัฐอเมริกาด้วยอีกต่างหาก
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ CNBC