Site icon Thumbsup

นักช้อปชาวใต้มาแรง! LAZADA เผยสถิติครึ่งปีแรก คนต่างจังหวัดช้อปออนไลน์เยอะขึ้น ส่วนคนเมืองยังดีต่อเนื่อง

แม้ภาพของเศรษฐกิจไทยโดยรวมจะดูนิ่งจนซบเซา แต่สำหรับธุรกิจออนไลน์แล้ว ต้องยอมรับว่าความสะดวกสบายและราคาสินค้าที่ถูกกว่าการขายหน้าร้าน ยังคงดึงดูดใจให้มีการสั่งซื้อกันอย่างต่อเนื่อง ทางด้าน LAZADA เอง ยังมั่นใจว่าภาพรวมอีคอมเมิร์ซของไทยที่ยังมีตัวเลขไม่ถึง 2 ดิจิท จะยังมีการเติบโตที่ดีขึ้นได้มากกว่านี้อีก หาก Ecosystem ทุกอย่างแข็งแรง

นางสาวธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การขายสินค้าบนช่องทางออนไลน์ ยังไม่เจอผลกระทบเรื่องเศรษฐกิจหรือชะลอการช้อปปิ้งมากนัก จากที่เช็คข้อมูลกับร้านค้า SME ที่ขายผ่านระบบของ LAZADA พบว่ายังมีทิศทางที่ดีอยู่ อาจเพราะราคาไม่แพงและไม่ต้องเดินทาง ทำให้ร้านค้าหรือแบรนด์ที่มองแต่ช่องทางออฟไลน์ก็ขยายเข้ามาสู่ออนไลน์มากขึ้น ทำให้บริษัทตั้งเป้าที่จะให้บริการลูกค้า 300 ล้านคนภายในปี 2030 สำหรับภูมิภาคนี้

ทาง LAZADA ยังคงมีความพยายามที่จะพัฒนาด้านอีโคซิสเต็มส์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนไทยอยากช้อปออนไลน์มากขึ้น โดยสนับสนุนร้านค้าด้วย Super eBusiness เพื่อช่วยเรื่องระบบบริหารจัดการ จัดการสต็อก หรือแม้แต่โปรโมชั่นพิเศษ เพื่อกระตุ้นยอดขายให้ดีขึ้น

นอกจากนี้ ก็ยังสนับสนุนพาร์ทเนอร์ทางด้าน Logistics และเพย์เม้นท์ให้รองรับการทำงานที่ราบรื่นในช่วงที่มีการจัดโปรโมชั่นตลอดทั้งปี เพราะนโยบายในปีนี้ จะมีการจัดแคมเปญ 5 ครั้ง คือ เบิร์ดเดย์เซลล์, 9.9, 11.11, 12.12 และ midyear sale จากเดิมที่จัดเพียงปีละ 3 ครั้ง เพื่อสร้างความคึกคักและดึงดูดให้ลูกค้ามาช้อปออนไลน์มากขึ้น

แม้ว่าจำนวนร้านค้าในระบบของ LAZADA ยังมีผสมผสานทั้งแบบแบรนด์ ร้านค้ารายย่อยในไทย และร้านค้าจากพาร์ทเนอร์ในต่างประเทศ แต่ 90% ยังผลักดันให้เป็นสินค้าของคนไทยมากกว่าและมียอดการขายที่ดีกว่า ส่วนเรื่องของราคาเฉลี่ยบนแพลตฟอร์ม แม้ว่าจะสูงกว่าคู่แข่ง แต่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาก็ได้มีการปรับลดราคาเฉลี่ยลง 25% ในช่วงที่ไม่ได้จัดโปรโมชั่น เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจช้อปได้ง่ายขึ้น

ภาพรวมสถิติของนักช้อปผ่าน LAZADA

ข้อมูลเชิงสถิติที่น่าสนใจของการใช้งานผ่านแพลตฟอร์ม LAZADA มีดังนี้

       

.     

พาร์ทเนอร์รายใหญ่อยากเด่นบนออนไลน์

แม้ว่าที่ผ่านมา LAZADA จะมีการสนับสนุนร้านค้า SME แต่ก็ยังเดินหน้าความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์รายใหญ่เช่นกัน โดยมีพาร์ทเนอร์หลายรายจะเลือกทำในไทยก่อนประเทศอื่นๆ

ล่าสุดที่มีความร่วมมือกับ แสนสิริ ในการจองและดาวน์คอนโดมิเนียมได้นั้น เป็นเพราะทางสำนักงานใหญ่มองว่าไทยมีศักยภาพก็เลยเลือกเปิดบริการนี้ในไทยก่อน หากมีแนวโน้มที่ดีในประเทศอื่นๆ ก็อาจมีการจองได้เช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีเพราะคนส่วนใหญ่จะหาข้อมูลจากทางออนไลน์ก่อนที่จะไปเดินดูโครงการจริง และไทยก็ถือว่าเป็น Innovation Hub เพราะใช้มือถือกันเยอะและปรับตัวเข้าสู่ออนไลน์ได้เร็ว

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสมาร์ทโฟนอย่าง XiaoMi ในการเปิดตัวรุ่น Redmi 7a, Mi brand 4 ผ่าน Official Store บน LAZADA แต่ภาพรวมด้านการแข่งขันของแบรนด์ใหญ่จะเห็นว่าต้องการที่จะมาใช้งาน LAZMall กันทั้งนั้น เพราะแบรนด์ใหญ่มองว่าจำเป็นและเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการประชาสัมพันธ์แบรนด์ที่ดี

ทั้งนี้ แบรนด์ที่ใช้งานมาร์เก็ตเพลสแบบรวมลาซมอลล์ก็เกินกว่า 80% แล้ว เพราะแพลตฟอร์มของเราไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และตอบโจทย์ความต้องการซื้อของลูกค้าได้ดีกว่าทำให้แบรนด์ใหญ่เข้ามาลงทุนการตลาดและออกแคมเปญเพิ่มขึ้น ทั้งส่งฟรี ลดราคา แจกของสมนาคุณ เป็นต้น

การเติบโตของธุรกิจออนไลน์ที่ดีแบบนี้ นอกจากจะช่วยเรื่องความสะดวกสบายในการซื้อขายแล้ว ยังเป็นโอกาสของแบรนด์ธุรกิจทั้งเล็กและใหญ่ในการเพิ่มโอกาสทางการขายได้ดีขึ้น ซึ่งในระยะยาวน่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่แข็งแรงเช่นเดียวกับต่างประเทศเป็นแน่