หลังจากเกิดดราม่ากับแบรนด์ Starbucks ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน และซีอีโอ Starbucks สวมบทพระเอกออกมาขอโทษส่วนตัวพร้อมปรับหลักสูตรอบรมพนักงานครั้งใหญ่ ล่าสุดโลกโซเชียลสหรัฐฯกำลังจับตาก้าวต่อไปของ Starbucks อย่างคึกคัก แถมยังโหมไฟกดดันให้เจ้าพ่อเชนกาแฟลงดาบไล่ออกผู้จัดการร้าน ซึ่งถูกมองว่าเป็นต้นเหตุของดราม่านี้
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดราม่าชามนี้ของ Starbucks เป็นที่สนใจของคนทั่วโลก คือวิดีโอไวรัลนี้ที่ถูกเปิดชมมากกว่า 10 ล้านครั้ง คำบรรยายวิดีโอระบุว่าเพียงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกเรียกมาเพื่อจับกุมชายผิวสี 2 รายนี้ที่ไม่ได้สั่งกาแฟกับ Starbucks แต่กำลังรอเพื่อนให้มาพบ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปล่อยตัวไปเพราะชายผิวสี 2 รายนี้ไม่ได้ทำอะไรผิด และมีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์นี้อาจไม่เกิดขึ้นหากเป็นคนขาว
@Starbucks The police were called because these men hadn’t ordered anything. They were waiting for a friend to show up, who did as they were taken out in handcuffs for doing nothing. All the other white ppl are wondering why it’s never happened to us when we do the same thing. pic.twitter.com/0U4Pzs55Ci
— Melissa DePino (@missydepino) April 12, 2018
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่เกิดขึ้นอาจลึกซึ้งกว่านั้น เพราะสื่ออย่าง The Washington Post ระบุข้อความจากทนายความของชายผิวสี 2 รายนี้ “Lauren Wimmer” ว่าลูกความของเธอ (ไม่ระบุนาม) ถูกปล่อยตัวที่สถานีตำรวจในเวลา 8 ชั่วโมงถัดมาเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบมูลความผิด
ทนายความบอกว่า ผู้จัดการร้าน Starbucks ที่แจ้งตำรวจให้จับกุมชายผิวสีนี้เป็นคนผิวขาว และชายผิวสี 2 รายนี้กำลังรอพบ Andrew Yaffe จากบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ ทั้งหมดต้องการประชุมเพื่อหาโอกาสลงทุนทางธุรกิจ
ปรากฏว่าเหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้บนสมาร์ทโฟนหลายเครื่อง ในวิดีโอชิ้นหนึ่ง Yaffe มาถึงแล้วบอกเจ้าหน้าที่ว่าชายผิวสีทั้ง 2 รายมาเพื่อพบเขา จากนั้น Yaffe จึงถามว่า ”ทำไมพวกเขาถูกขอให้ออกไปล่ะ” ก่อนจะสรุปว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องตลก แต่เป็นเรื่องเหยียดผิวชัดเจน
หลายคนเห็นด้วยกับ Yaffe ทำให้โลกโซเชียลร้อนเป็นไฟด้วยแฮชแทค #BoycottStarbucks สำนักข่าว USA Today รายงานว่าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กลุ่มคนผิวสีหลายคนรวมตัวประท้วงที่ร้าน Starbucks ในเมืองฟิลาเดลเฟีย เพื่อต้านนโยบายการจัดการร้าน จนทำให้ผู้จัดการร้านสาขานี้ตัดสินใจแจ้งตำรวจ
ในเมื่อถูกชี้ว่าเป็นประเด็นแบ่งแยกสังคมอเมริกัน Starbucks ไม่อาจอยู่นิ่ง โดยตัดสินใจออกแถลงการณ์ขอโทษในนามแบรนด์ช่วงวันที่ 14 เมษายน และแถลงการณ์รับผิดว่าเป็นความผิดพลาดของการอบรมพนักงานบริษัท แถลงการณ์หลังนี้ประกาศในวันที่ 15 เมษายน
We apologize to the two individuals and our customers for what took place at our Philadelphia store on Thursday. pic.twitter.com/suUsytXHks
— Starbucks Coffee (@Starbucks) April 14, 2018
We regret that our practices and training led to the reprehensible outcome at our Philadelphia store. We’re taking immediate action to learn from this and be better. A statement from ceo Kevin Johnson: https://t.co/kPav8bEeOX
— Starbucks Coffee (@Starbucks) April 15, 2018
ไม่พอ Kevin Johnson ซีอีโอ Starbucks จัดวิดีโอขอโทษประชาชนในฟิลาเดลเฟียและลูกค้าเป็นการส่วนตัว โดยขอโทษถึงพันธมิตรของ Starbucks ทุกคนที่ผิดหวัง ซีอีโอบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งที่ Starbucks เป็น และไม่ใช่สิ่งที่ Starbucks กำลังจะเป็นด้วย
ในวิดีโอ ซีอีโอ Starbucks ชี้ว่าจะเรียนรู้และปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นจากกรณีนี้ โดยซีอีโอพยายามรับผิด และพยายามขอให้ทุกคนไม่กล่าวโทษกับผู้จัดการร้านที่ตัดสินใจแจ้งตำรวจ
เพื่อไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีก ซีอีโอ Starbucks ระบุว่าจะเปลี่ยนแปลงนโยบาย และอบรมพนักงานเพิ่มเติมจากหลักสูตรที่มี
สถานการณ์อัปเดทล่าสุดคือ Starbucks ระบุเพียงว่าผู้จัดการร้านนั้นไม่ได้ทำงานที่สาขาต้นเหตุดราม่าแล้ว ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่าผู้จัดการถูกโยกย้ายไป หรือถูกไล่ออก ทำให้ชาวโซเชียลอเมริกันเรียกร้องรุนแรงให้ปลดพนักงานรายนี้ แถมมีการโพสต์รูปพนักงานที่เชื่อว่าเป็นผู้จัดการร้านไปทั่วโซเชียล
.@Starbucks rep says that they will not fire the manger who made the call that led to the unjust arrest of two Black men at their Rittenhouse Square location.
I’m not a coffee drinker, but I guess I won’t be a Tazo tea drinker there now either.
— Ernest Owens (@MrErnestOwens) April 15, 2018
ไม่ว่า Starbucks จะปลดพนักงานหรือไม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ดราม่านี้ถูกหยิบเรื่องเข้าห้องน้ำมาเป็นประเด็น หลายกระแสบอกว่าผู้จัดการร้าน Starbucks ไม่ยอมให้ชายผิวสีที่ไม่ได้ซื้อเครื่องดื่มเข้าห้องน้ำ ทั้งที่ชายผิวสีขออนุญาตเจ้าหน้าที่ร้าน อย่างไรก็ตาม ในรายงานของสื่อใหญ่ มีประเด็นเข้าห้องน้ำที่เข้าใจได้
ตามคำให้การที่บันทึกโดย Richard Ross เจ้าหน้าที่ตำรวจฟิลาเดลเฟีย ระบุว่า 1 ใน 2 ของชายผิวสีที่ถูกจับกุม ได้ขออนุญาตใช้ห้องน้ำของร้านโดยที่ยังไม่ได้ซื้อสินค้าใด พนักงานของร้านจึงแจ้งว่า นโยบายของบริษัทไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่ใช่ลูกค้าใช้บริการห้องน้ำ ก่อนจะขอให้ทั้ง 2 คนออกจากร้านไป
ผู้จัดการร้านจึงตัดสินใจเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อชาย 2 รายไม่ยอมออกจากร้าน เจ้าหน้าที่ใส่กุญแจมือและบังคับให้ทั้งคู่ออกจากร้านได้ในที่สุด แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ถูกบันทึกในสมาร์ทโฟน และเป็นดราม่าไวรัลอีรุงตุงนังในเวลานี้
ไม่ว่าต้นเหตุของเรื่องนี้คืออะไร กฏนโยบายบริษัท Starbucks, เจ้าหน้าที่ที่ทำตามกฏนั้น, ชายผิวสีที่ไม่เห็นด้วย, Andrew Yaffe ที่จุดประเด็นเหยียดผิว หรือชาวโซเชียลที่ร่วมโหมไฟดราม่า แต่ที่แน่นอนคือ Starbucks ได้พื้นที่สื่อหลายวันติดกัน โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณาให้สื่อใด.
ที่มา: : PrDaily