กลยุทธ์ gamifie หรือการทำการตลาดด้วยเกมนั้นยังทันสมัยอยู่เสมอ วันนี้เชนกาแฟดังอย่าง Starbucks ลุยทำแคมเปญเพื่อมอบรางวัลตอบแทนลูกค้าด้วยเกมชื่อ Bonus Star Bingo คาดว่าจะช่วยให้ Starbucks ขยายตลาด mobile commerce เต็มที่ จากที่เคยมีสัดส่วน 3% ของทรานแซกชันรวม เป็น 7% ในปีนี้
ตัวเลขสัดส่วนธุรกรรมที่เกิดบนอุปกรณ์พกพาของ Starbucks นั้นน่าสนใจ เพราะในช่วงไตรมาสล่าสุด Starbucks ระบุว่าราว 3% ของ transactions รวมที่เกิดขึ้นจากลูกค้านั้นมาจากตลาดโมบาย สัดส่วนนี้ถือว่ามีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก Starbucks จึงวางเป้าหมายให้ mobile commerce ของบริษัทขยายตัวอีก 1 เท่าตัว เป็นอย่างน้อย 7% ภายในไตรมาสแรกของปีนี้
หนึ่งในเครื่องมือที่จะทำให้ mobile commerce ของบริษัทขยายตัวรวดเร็ว คือการนำความสนุกน่าลุ้นผ่านเกมมาเป็นสื่อดึงดูด วันนี้ Starbucks จึงเปิดตัวเกม Bonus Star Bingo ในสหรัฐฯเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญแลกของรางวัลที่จัดให้ผู้ใช้อุปกรณ์พกพา โดยเกมนี้ถูกเปิดตัวพร้อมเว็บไซต์พิเศษหรือ standalone site และถูกโปรโมทอย่างเต็มที่บนโซเชียลผ่านแฮชแทค #BonusStarBingo
เช่นเดียวกับ Bingo ทั่วไป ผู้เล่นเกมจะต้องเติมการ์ด bingo ของตัวเองแต่มีข้อแม้ว่าต้องใช้บัญชี mobile rewards account สำหรับชำระหรือซื้อคะแนนเพิ่มเติม คะแนนเหล่านี้ถูกตั้งชื่อเรียกว่า “stars” ทุกคนจะมีสิทธิลุ้นรับ 300 stars เพื่อเติมลงในการ์ด bingo เสมือนที่มีอยู่ ทั้งหมดนี้สะท้อนว่ากติกาเกม BonusStarBingo ตั้งใจให้ผู้ใช้ผูกติดเล่นกันยาวๆ ต่อเนื่อง
การแจ้งเกิดเกมนี้ได้รับความสนใจจากวงการโซเชียลไม่น้อย เนื่องจากที่ผ่านมา Starbucks ถือเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งในตลาด m-commerce ทำให้เกมใหม่ bingo ถูกพูดถึงวงกว้างจนกลายเป็นบัซร้อนแรงบน Twitter ท่ามกลางแฮชแทค #BonusStarBingo ที่แพร่กระจายไปทั่ว กรณีนี้ถือเป็นอีกกรณีศึกษาที่สะท้อนว่าโซเชียลช่วยให้เกิด word of mouth ที่แข็งแกร่ง พร้อมกับแรง engagement คึกคักเมื่อเกมของแบรนด์เริ่มเปิดให้บริการ
เป้าหมายขยายสัดส่วน mobile commerce จาก 3% เป็น 7% ของทรานแซกชันรวมนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนยกระดับบริการบนอุปกรณ์พกพาของ Starbucks ในช่วง 5 ปีนับจากนี้ โดยตั้งแต่ธันวาคมที่ผ่านมา Starbucks เดินหน้าเปิดตัวบริการสั่งกาแฟออนไลน์ บริการจ่ายค่ากาแฟออนไลน์ รวมถึงบริการสั่งดาแฟผ่านระบบ AI ซึ่งคาดว่าทั้งหมดจะถูกพัฒนาต่อยอดหลังจากพ้นจากช่วงทดสอบบนแอปพลิเคชัน iOS ต่อไป
ที่มา: MarketingDive