เรียกว่าเป็นการจับมือข้ามอุตสาหกรรมที่จะทำให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ สำหรับ Starbucks และ Spotify ที่ร่วมมือกันทำให้ลูกค้าทั้ง 2 บริการสามารถบันทึกเพลงที่ได้ยินจากร้าน Starbucks มาฟังบน Spotify ได้ทุกที่ทุกเวลา เบื้องต้นคุณสมบัติใหม่ในแอพพลิเคชัน Starbucks นี้จะรองรับพื้นที่ร้าน Starbucks มากกว่า 7,500 สาขาในสหรัฐฯ
ที่ผ่านมา คอเพลงมักต้องใช้บริการอย่าง Shazam ในการค้นหาเพลงที่กำลังฟังอยู่แล้วถูกใจ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือลูกค้า Starbucks สามารถใช้แอพพลิเคชันของ Starbucks เพื่อค้นหาชื่อเพลงที่ได้ยินจากร้าน โดยข้อมูลเพลงจะถูกแสดงบนหน้าแอพก่อนจะเสนอให้ผู้ใช้บันทึกเพลงเพื่อนำไปฟังผ่านบัญชี Spotify ได้ในภายหลัง
ไม่เพียงเพลงที่ฟังในขณะนั้น ลูกค้า Starbucks ที่เป็นสาวก Spotify ยังสามารถเรียกดูรายชื่อเพลงที่ร้านเปิดไปก่อนหน้านี้ได้ด้วย
คุณสมบัติใหม่บนแอพพลิเคชัน Starbucks นี้สามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการกดที่แบนเนอร๋ “Now Playing” ด้านล่างของแอพ คุณสมบัตินี้รองรับทั้งอุปกรณ์ iOS และ Android แต่น่าเสียดายที่จำกัดเฉพาะพื้นที่ร้าน Starbucks จำนวนมากกว่า 7,500 สาขาเฉพาะในสหรัฐฯเท่านั้น
ทั้งหมดนี้ Howard Schultz ซีอีโอ Starbucks ให้ความเห็นว่าเพลงเป็นองค์ประกอบสำคัญของร้าน Starbucks มานานกว่า 40 ปี ความร่วมมือนี้ถือเป็นการเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ของประสบการณ์ในร้าน Starbucks ทำให้ลูกค้าสามารถควบคุมหรือทำสิ่งที่ต้องการได้มากขึ้น ขณะที่ศิลปินมีโอกาสแบ่งปันความสามารถมากขึ้นเช่นกัน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Starbucks พยายามสร้างสีสันเรื่องเพลงให้ร้าน โดยก่อนหน้านี้ เชนกาแฟชื่อดังเคยวางจำหน่ายแผ่น CD เพลง รวมถึงการแจกฟรีเพลง iTunes กระทั่งปีที่แล้ว Starbucks เริ่มลุยตลาดสตรีมมิ่งเพลงด้วยการเซ็นสัญญากับ Spotify ในฐานะพันธมิตรด้านเพลงอย่างเป็นทางการ
ในมุมของ Spotify บริการสตรีมมิ่งเพลงรายใหญ่ไม่ได้จับมือกับ Starbucks เท่านั้น แต่ยังมีบริการแท็กซี่ออนไลน์อย่าง Uber และสายการบิน Virgin America ที่ลูกค้าจะสามารถรับฟังเพลงระหว่างการเดินทางได้ไม่ว่าจะทางบกหรืออากาศ เรียกว่าเป็นการตอบโจทย์ลูกค้าที่น่าสนใจทีเดียว
ที่มา : Starbucks