เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมาบริษัทสตาร์บัคส์คอฟฟี่ได้เปิดตัวร้านกาแฟเพื่อชุมชน (Community Store) นอกสหรัฐอเมริกาแห่งแรกในไทยที่สาขาหลังสวนซึ่งในงานวันนั้นเป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมากเพราะคุณฮาวเวิร์ด ชูลท์ซ (Howard Schultz) ซีอีโอของสตาร์บัคส์เดินทางมาเปิดร้านนี้ด้วยตัวเองเลยทีเดียว
ร้านกาแฟเพื่อชุมชนที่สาขาหลังสวนนี้นับได้ว่าเป็นแห่งที่ 4 ของโลก ซึ่งอีก 3 ร้านตั้งอยู่ที่ลองแองเจลิส นิวยอร์ค และเท็กซัส โดยร้านกาแฟเพื่อชุมชนแห่งนี้จะทำการมอบรายได้ 10 บาทจากการจำหน่ายเครื่องดื่มทุกแก้วที่จำหน่ายในสาขานี้ให้กับองค์กรพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสานเพื่อเป็นเงินในการสร้างศูนย์การเรียนรู้ให้แก่ชุมชนบ้านแม่ขี้มูกน้อย และบ้านกองกาย อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่และพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวชุมชนไร่กาแฟทางภาคเหนือของไทยต่อไป
จากการเปิดร้านกาแฟเพื่อชุมชนในครั้งนี้ทำให้เห็นว่าประเทศไทยก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ทางสตาร์บัคส์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก คำถามที่เกิดขึ้นก็คือแล้วเราจะมีโอกาสเห็นนวัตกรรมหรือการเอาจริงเอาจังด้านการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้กับสาขาในประเทศไทยเช่นเดียวกับที่อเมริกาหรือไม่ ถ้าเรามองย้อนไปจะพบว่าสตาร์บัคส์เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่สนใจเทคโนโลยีมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเว็บ My Starbucks Idea ที่ใช้คอนเซ็ปต์ Crowdsourcing ในการขอไอเดียใหม่ๆจากลูกค้าหรือการนำ Square เครื่องอ่านบัตรเครดิตมาใช้งาน จึงน่าจับตาดูไม่น้อยว่าหลังจากนี้สตาร์บัคส์จะนำนวัตกรรมหรือสิ่งใหม่ๆ เข้ามาใช้ในตลาดบ้านเราเป็นอันดับแรกๆ เช่นเดียวกับการเปิดร้านนี้หรือไม่ หรืออาจเป็นโอกาสใหม่สำหรับบริษัทเทคโนโลยีในบ้านเราที่จะนำเสนอผลงานกับองค์กรระดับโลกเช่นนี้ก็เป็นได้