ในยุคที่ Facebook ครองโลกออนไลน์ หันไปทางไหนก็มีแต่เพื่อนๆ ใช้ Facebook กันเต็มไปหมด ปัจจุบันจากสถิติล่าสุดของ SocialBakers (มิถุนายน 2555) มีสมาชิกชาวไทยสูงถึง 15 ล้านราย จัดเป็นอันดับที่ 15 ของโลก และสิ่งที่ทำให้ Facebook เติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้สิ่งนั้นก็คือการวางตัวเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้นักพัฒนาและแบรนด์ต่างๆ เข้ามาพัฒนาต่อยอดได้ และหนึ่งในนั้นคือธุรกิจการซื้อขายบน Facebook หรือที่หลายคนเรียกว่า F-Commerceสำหรับวันนี้ทีมงานจะพาไปพบกับบทสัมภาษณ์ คุณณัฐเศรษฐ์ ศิรินันท์ธนานนท์ (คุณทร) จากบริษัท ซีแมนทิช ทัช จำกัด ผู้ก่อตั้ง BentoWeb นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่หันมาสร้างเครื่องมือให้กับผู้ประกอบการ SME ในไทยค่ะ
thumbsup: ?ช่วยแนะนำ BentoWeb?ให้กับผู้อ่านได้รู้จัก และอะไรคือแรงบันดาลใจที่มาทำเว็บนี้
คุณทร: BentoWeb?คือ?Web Application?ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเปิดร้านบน?Facebook?ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพครับ?จากประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับ?SME?พวกเราเรียนรู้ว่าผู้ประกอบการล้วนเข้าใจถึงความสำคัญของอินเทอร์เน็ตและอยากใช้ประโยชน์จาก?E-Commerce?ครับ แต่ปัญหาที่สำคัญ คือ กลัวความยุ่งยาก ทั้งจากการจัดทำระบบและการใช้งาน ?พวกเราจึงนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาผนวกเข้ากับ?Facebook?แล้วจัดการระบบให้เป็นรูปแบบกึ่งสำเร็จรูป เพื่อให้รองรับกับความต้องการที่หลากหลาย
thumbsup: ?ชื่อเว็บฯ Bento ได้แนวคิดมาจากไหน?
คุณทร: ที่มาของชื่อ?BentoWeb?มาจากแนวคิดของพวกเราที่ต้องการให้ระบบมีความสมบูรณ์ เบ็ดเสร็จ เหมือนกับเรามองเข้าไปในกล่องข้าว?Bento?ที่จะมีทั้งอาหารคาวหวาน เมื่อไหรที่เราต้องการจะเพิ่มอะไรเข้าไป เราก็สามารถทำได้โดยการตั้งเรียงขึ้นไปเป็นชั้นๆ ครับ
thumbsup: F-Commerce?ในต่างประเทศดูเติบโตในทิศทางที่ดีพอสมควร จากมุมมองของคนในธุรกิจนี้โดยตรง?เว็บไหนที่คิดว่าน่าสนใจ เช่น?Alvenda, Payvment, Storefront Social, Bigcommerce เป็นต้น
คุณทร: ผมคิดว่า?Payvment น่าสนใจครับ จริงทุกๆ แบรนด์เองก็มีข้อดีข้อเสีย แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่ผมคิดว่า?Payvment?ประสบความสำเร็จมากที่สุด เพราะแต่ละฟังก์ชั่นที่ถูกพัฒนาต่อยอด ล้วนแต่เป็นการส่งเสริมการสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างลูกค้า, ร้านค้า, และกลุ่มของร้านค้าในระบบของเขาครับ
thumbsup:?ตั้งแต่เปิดมาจนถึงปัจจุบันมีลูกค้าประมาณกี่ราย มีการซื้อขายมากน้อยเพียงใด และ?SME?ประเภทไหนที่เข้ามาใช้บริการมากที่สุด
คุณทร: เราเปิดมาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม สิ้นเดือนมิถุนายนนี้จะมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวน 3,000 ร้านค้าครับ ตัวเลขการซื้อขายผ่านระบบอยู่ที่ 4.4 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าที่ขายสินค้าเกี่ยวกับการดีไซน์เป็นหลักครับ
thumbsup: ปัจจุบันมีแผนการโปรโมตและการทำตลาดให้?SME?เป็นที่รู้จักอย่างไรบ้าง
คุณทร: ที่ผ่านมาเราประชาสัมพันธ์ผ่านวิทยุและนิตยสารครับจะเป็นทาง?Offline?ซะเป็นส่วนใหญ่ เราก็เลยได้กลุ่มลูกค้าที่เป็น?SME?ที่ยังไม่เคยได้สัมผัสกับ?E-Commerce ค่อนข้างเยอะ ในเดือนกรกฎาคมหลังจากที่เราเสร็จสิ้นจากการออกบูธในงานมหกรรมชี้ช่องรวย 2012 แล้วเราจะเน้นไปที่การประชาสัมพันธ์ผ่าน?Online?โดยบอกเล่าประโยชน์ของ BentoWeb?และความลำบากของการซื้อขานผ่าน?Fan Page?แบบปกติผ่านหนังโฆษณาแบบติดตลกครับ
thumbsup: BentoWeb ไม่ใช่รายเดียวที่ทำ?F-Commerce?ในไทย และตอนนี้ก็มีมากขึ้นทุกๆ วัน อะไรที่คิดว่าเป็นจุดต่าง
คุณทร: จุดเด่นของ?BentoWeb?คือความง่ายในการใช้งานและความสามารถในการจัดการร้านที่ครอบคลุมครับ?เราตั้งใจที่จะพัฒนาให้?BentoWeb?เป็นแพลตฟอร์มสำหรับผู้ประกอบการ?SME?ที่ไม่เคยใช้?E-Commerce?เป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายมาก่อน เราจึงออกแบบ User Interface?ให้เน้นที่?White Space, Drag and Drop (หน้าตาเว็บที่ใช้งานได้ง่ายเหมือนกับการใช้ Microsoft Word จับลากแล้ววาง ไม่ต้องมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ก็ใช้งานได้) และมี?Call to Action?ที่ชัดเจน อีกทั้งเรายังมีเจ้าหน้าที่?Call Center?และ?Live Chat?ที่ลูกค้าสามารถสอบถามทั้งในเรื่องคำแนะนำการใช้ระบบและการตลาดได้ตลอดในช่วงเวลาทำการที่เบอร์ 02 683 6512 ครับ
BentoWeb?จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อและผู้ขายในการขายสินค้าให้สะดวกขึ้น เมื่อลูกค้าได้ทำการสั่งซื้อสินค้ากับร้านค้าบน?BentoWeb?ไปแล้ว ไม่ว่าจะร้านไหน ระบบจะทำการจดจำที่อยู่ในการจัดส่งเอาไว้ โดยที่ลูกค้าไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเวลาในการพิมพ์ที่อยู่อีกครั้งหนึ่ง ผู้ประกอบการสามารถรับการชำระเงินได้ทันที ไม่ต้องยุ่งยากกับการออกเอกสารสำคัญต่างๆ ทั้งใบสั่งซื้อสินค้า-ใบเสร็จรับเงิน?BentoWeb?ยังมีระบบบริหาร?Stock สินค้าในตัว พร้อมความสามารถในการพิมพ์ที่อยู่สำหรับการจัดส่ง และมีเครื่องมือในการทำการตลาดที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจในกลุ่มลูกค้าครับ
thumbsup: สมมติว่าวันหนึ่งเกิดมี?Social Network?ที่มาแรงสูสีกับ?Facebook?ทาง?BentoWeb?จะปรับตัวอย่างไร
คุณทร: ทุกๆ อย่างก็มี?Life Cycle?ของมันครับ ผมคิดว่า?Facebook?เองก็น่าที่จะไปได้อีก 2-3 ปี?F-Commerce?ก็น่าที่จะเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน?ช่องทางการขายบน?Facebook?เป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบ?BentoWeb?เท่านั้นครับ หากวันใดมี?Social Network?ที่จะเข้ามาแทนที่แล้วพวกเขาอนุญาตให้พวกเราเข้าไปพัฒนาในลักษณะเดียวกันกับ?Facebook?เราก็พร้อมที่จะเพิ่มช่องทางการขายไปยัง?Social Network?นั้นให้กับผู้ประกอบการครับ
thumbsup: อะไรที่คิดว่าเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้?SME?ยังไม่กระโดดเข้ามาใน?F-Commerce?อาทิเช่น ช่องทางการชำระเงิน? SME?ยังไม่ชินกับระบบจ่ายเงินออนไลน์อย่าง PayPal? และบริการอื่นๆ??และคุณคิดว่าจะผลักดันและแก้ปัญหาอย่างไร
คุณทร: หลักๆ แล้วคิดว่าน่าจะเหมือนกับ?E-Commerce?นะครับ คือระบบพื้นฐานทั้งการรับชำระเงินและการจัดส่งสินค้าในบ้านเรายังไม่ค่อยอำนวยเท่าไรครับ อีกทั้งยังมีเรื่องที่ว่ากรมสรรพากรเรียกตามเก็บภาษีเงินได้ประจำปีอีกก็ยิ่งทำให้คนที่จะขยับตัวเข้า?E-Commerce?เริ่มขยาดไปตามๆ กัน ในเรื่องของการรับเงินผ่านบัตรเครดิต?BentoWeb?เลือกใช้?PayPal?ครับเพราะป็นระบบที่ปลอดภัยใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน แต่เราก็จำเป็นที่จะต้องแนะนำผู้ประกอบการตั้งแต่เริ่มสมัคร ไปจนถึงการใช้งานกันเลยเนื่องจากส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยคุ้นกับระบบครับในตอนนี้พวกเราอยู่ในระหว่างการขอคำแนะนำจากธนาคารต่างๆ เพื่อหาวิธีการที่จะทำให้การซื้อขายด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเป็นเรื่องง่ายขึ้นครับ
ผู้ประกอบการหลายๆ ท่านใช้?Fan Page?ในการเริ่มขายสินค้าเพราะมันง่ายกว่าการมีเว็บไซต์ ซึ่ง?BentoWeb?อยากที่จะตอบสนองความต้องการนั้น โดยเราจะช่วยลดความยุ่งยากต่างๆ ให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในเรื่องการดูแลหลังบ้านอย่างเรื่องบัญชีและการจัดการเอกสาร ซึ่งเราวางแผนให้ระบบของเราสามารถรองรับได้ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการเลยครับ
thumbsup: อะไรคือปัจจัยความสำเร็จ สำหรับธุรกิจ?F-Commerce?ในบ้านเรา?
คุณทร: ผมมองว่า?Facebook?เป็นช่องทางการขายที่ดีนะครับ เราสามารถทำการตลาดกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่ายกว่า แต่ถ้าจะทำให้สำเร็จก็จะต้องมีการวางแผนธุรกิจให้ดี รู้จักองค์กรของเรา, รู้จักสินค้า, รู้จักกลุ่มลูกค้า และที่สำคัญคือ จะต้องตอบให้ได้ว่า ทำไมลูกค้าต้องมาซื้อกับเราไม่ใช่กับคู่แข่ง?เมื่อเรารู้จักสินค้า, รู้จักลูกค้าและความต้องการของพวกเขาแล้ว การสื่อสารผ่าน?Fan Page?และการขยายฐานลูกค้าก็ไม่ใช่เรื่องยากครับ
thumbsup: แผนพัฒนาต่อยอด?
คุณทร: เราต้องการให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตในการกระจายสินค้าสู่มือผู้บริโภคได้แบบไม่ยุ่งยากครับ โดยนอกจากเราจะพัฒนาหน้าร้านบน?Facebook แล้วในอนาคตอันใกล้ ทุกร้านที่เปิดใช้บริการ?BentoWeb?จะมีเว็บและ?โมบายแอพพลิเคชั่นเป็นของตัวเองครับ?นอกจากแพลตฟอร์มที่เพิ่มขึ้นเราจะมีบริการทางการตลาดอย่างเช่น Email Marketing?เต็มรูปแบบเสนอให้กับผู้ประกอบการและ มีร้านกลางที่จะช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าและร้านค้าให้กับผู้ประกอบการต่อไปครับ
thumbsup: อยากฝากอะไรถึง?Startup?ไทยบ้างเอ่ย?
คุณทร: สั้นๆ ง่ายๆ เลยครับ สู้ๆ และอย่าไปยอมแพ้!
=================
ตลาดนี้แม้จะดูมีการแข่งขันสูง และแต่ละเว็บถ้าดูกันเผินๆ ก็เหมือนจะคล้ายกันไปหมด แต่ถ้ามองกันที่รายละเอียดแล้วจะเห็นว่าทีมงาน BentoWeb เอาใจใส่ในรายละเอียดและเข้าใจถึงความสำคัญของคำว่าประสบการณ์การใช้งานของลูกค้า (User Experience) เป็นอย่างมาก รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจกันตั้งแต่การเริ่มใช้งาน การชำระเงิน และการดูและระบบหลังบ้านต่างๆ มีระบบ Call Center ที่คอยช่วยเหลือลูกค้าด้วย เรียกว่าให้ความสำคัญกับลูกค้าอย่างแท้จริง ในส่วนของ Package ก็มีด้วยกัน 3 รูปแบบ Free, Basic และ Professional สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของธุรกิจ?ก็ถือเป็นอีกหนึ่ง Startup ที่น่าสนับสนุนและแนะนำให้กับผู้ประกอบการ SME ที่อยากเปิดร้านค้าบน Facebook ค่ะ