คุณพ่อคุณแม่ทุกคนไม่มีใครไม่ห่วงลูก ระหว่างวันที่ลูกๆ ออกไปเที่ยวข้างนอก รู้ทั้งรู้ว่าคงไม่เป็นอะไร แต่ก็อดห่วงไม่ได้ ต้องโทรตาม โทรจิก SMS ไปถามเรื่อยๆ แต่บริษัท startup แห่งหนึ่งในอเมริกามาด้วยทางแก้ไขปัญหาสำหรับท่านผู้ปกครองกับแอพพลิเคชั่น “I’mOK” ที่ช่วยให้คุณรู้ได้ว่าลูกหลานของคุณ “OK”
ทุกวันนี้ลูกหลานของท่านผู้ปกครองต่างใช้ Social Network กันอยู่แล้ว วิธีหนึ่งที่จะรู้ได้ว่าลูกไปที่ไหน สบายดีไหม มีอันตรายอะไรหรือเปล่า ก็คือการคอยตามดูว่าไปลูก Check-in Foursquare หรือ Facebook ที่ไหน โดยพ่อแม่อาจจะบอกกับลูกว่าไปไหนต้อง Check-in ด้วยไม่งั้นจะเป็นห่วง แต่ปัญหาก็คือลูกๆ จะรู้สึกรำคาญจนบางทีก็ลืม Check-in
Matthew Bromberg มีไอเดียเด็ดว่าจะทำอย่างไรให้พ่อแม่คอยตามลูกได้โดยไม่ทำให้ลูกรำคาญ เขาจึงก่อตั้งบริษัทเล็กๆ ทำแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า “I’m OK” ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับให้รางวัลเด็กๆ ในการที่ยอมติดต่อกับพ่อแม่
ล่าสุดบริษัทของ Bromberg ได้เงินลงทุนเริ่มต้น 250,000 เหรียญ (ราว 7.5 ล้านบาท) ส่วนหนึ่งมาจากตัวเองและจากนักลงทุน และกำลังทดสอบแอพพลิเคชั่นเป็นการภายในอยู่ที่ Imok.com ด้วยแอพพลิเคชั่นตัวนี้ เด็กๆ ของคุณจะแชร์ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ถ่ายรูปให้ดู แท็กว่าอยู่กับเพื่อนคนไหน และอื่นๆ ที่จะบอกพ่อแม่ได้ว่าทำอะไรอยู่ ในทางกลับกัน คอนเซ็ปต์สำคัญของแอพพลิเคชั่นตัวนี้ก็คือ ถ้าเด็กๆ Check-in บอกพ่อแม่ เขาก็จะได้รับแต้มที่เอามาแลกของรางวัลจากคุณพ่อคุณแม่ได้ เช่น เงิน ของขวัญ ระยะเวลาสำหรับเล่นคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น แล้วแต่จะตกลงกัน
Bromberg กล่าวว่าไอเดียของเขาเกิดจากวันหนึ่งขณะที่กำลังคุยกับลูกชายว่า:
Son: ?พ่อ ผมอยากได้มือถือ?
Dad:? ?ลูกยังเด็กอยู่เลยครับ?
Son:? ?แต่ผมอยากใช้นะจะได้คุยกับพ่อได้ไง จะได้ Connect กับพ่อได้ตลอด?
Bromberg อยากให้สิ่งที่ลูกชายตัวดีพูดมาเป็นจริงได้ การที่จะได้ข้อมูลดีๆ ตลอดทั้งวันนั้นไม่ง่าย เขาเลยกลับมาพร้อมกับไอเดียที่ว่า ถ้าหากเรามีสิ่งตอบแทนให้กับน้องๆ หนูๆ เหมือนกับเล่นเกม น่าจะเวิร์คกว่าการคอยให้ลูก SMS มาบอกว่าอยู่ที่ไหน แอพพลิเคชั่น I’mOK จะเปิดให้ใช้กันภายในสองสามเดือนนี้… ไอเดียนี้แม้จะไม่ใช่เทคโนโลยีอะไรใหม่ แต่มันสดใหม่ด้วย “ไอเดีย” ที่น่าเสียดายว่าคนไทยก็น่าจะทำอะไรแบบนี้ได้ไม่ยากเลย ทำไมเราไม่ลองดูสักตั้ง? ไม่ต้องเหมือนก็ได้ แต่ทำแอพพลิเคชั่นอะไรก็ได้ที่ช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ใช้ ถ้านึกภาพไม่ออก ดูวิดีโอได้เลยจ้ะ
ที่มา: VentureBeat