จากปัญหาการลุกลามเรื่อง COVID-19 กลับมาเป็นกระแสร้อนแรงอีกครั้ง หลังพบคนไทยเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นและป่วยแต่ไม่แจ้งแพทย์จนเกิดปัญหาเชื้อโรคกระจายอีกครั้ง ทำให้หลายบริษัทต้องออกมาตรการขั้นเด็ดขาด เพื่อป้องกันปัญหาลุกลามใหญ่โต เรามาลองดูกันว่ามีบริษัทไหนออกมาตรการที่เกี่ยวข้องและป้องกันอย่างไรบ้าง โดยเราได้รวบรวมจดหมายข่าวที่ส่งมาแบบไม่มีตัดให้อ่านกันเต็มๆ เพื่อจะได้อ่านรายละเอียดแบบชัดเจนกันเลย
ทีม AIS
- งดการเดินทางไปต่างประเทศโดยเด็
ดขาด ทั้งในส่วนการปฏิบัติภารกิจของบ ริษัท และการเดินทางส่วนตัว โดยกรณีหากมีการเดินทางไปยังประ เทศกลุ่มเสี่ยงก่อนหน้านี้ ให้พนักงานปฏิบัติงานที่บ้าน – work from home และเฝ้าสังเกตอาการตัวเองเป็นเว ลา 14 วัน หากครบกำหนดแล้วไม่พบอาการป่วย ให้พนักงานเข้าพบแพทย์แผนปัจจุบั นชั้น 1 ในโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน หลังจากแพทย์ลงความเห็นว่าไม่มี อาการป่วยแล้ว ต้องนำใบรับรองแพทย์มาแสดงก่อนเ ข้ามาปฏิบัติงานตามปกติ - งดการประชุมทางธุรกิจกับบุคคลภ
ายนอก รวมถึงพาร์ทเนอร์ที่เดินทางมาจา กต่างประเทศทุกประเทศ โดยให้ใช้การประชุมทางโทรศัพท์ห รือออนไลน์ (Conference Call) แทน พร้อมทั้งมีการกำหนดกระบวนการคั ดกรองพาร์ทเนอร์ที่ต้องร่วมปฏิบั ติงานกับทีมเอไอเอส - สำหรับพนักงานที่ให้บริการลูกค้
าใน AIS Shop, ร้านเทเลวิซ จะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พร้อมมีการตรวจวัดไข้วันละ 2 ครั้ง และเพิ่มบริการแอลกอฮอล์เจลสำหรั บล้างมือ เพื่อให้บริการลูกค้า - ดำเนินการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ปฏิบัติงานหลักตามตารางที่กำ
หนด ทั้งที่อาคารสำนักงาน รวมถึง AIS Call Center พร้อมตั้งจุดบริการแอลกอฮอล์เจล ล้างมือ, เน้นย้ำการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อจุดเสี่ยงตลอดเวลา อาทิ ที่จับประตู ลิฟท์ และในส่วนที่ต้องสัมผัสบ่อยๆ - อนุมัติปรับเวลาเข้าปฏิบัติงานข
องพนักงานตามความเหมาะสม เพื่อลดอัตราเสี่ยงจากการเดินทา งในช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีความแอ อัดสูง - จัดการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่
อนเข้าอาคารเอไอเอส 1 และ 2 รวมถึงอาคารที่ทำงานอื่นๆ ในเครือเอไอเอส แบบ 100% โดยหากพบว่าพนักงานและผู้มาติดต่ อ มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส จะไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่โดยเด็ ดขาด - งดประชุมหรือจัดกิจกรรมใดๆ ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ที่ทำการของบริษัทที่จะมีจำนวนผู้
เข้าร่วมตั้งแต่ 30 คนขึ้นไป
นอกจากนี้ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่พนัก
ทีม Storylog และ Barecave
จากเฟสบุคของ CEO Bearcave บริษัทผลิตคอนเทนต์ ได้ออกเนื้อหาเกี่ยวกับการอนุมัติให้พนักงานหยุดงานเมื่อเดินทางไปต่างประเทศอย่างน่าสนใจ
“เมื่อวานนัดประชุมด่วนกับ Team Lead และ HR เรื่อง COVID-19 และการทำงาน สรุปมาว่าทุกคนเห็นตรงกันเรื่องนี้ว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ต้องออกกฎเร่งด่วนขึ้นตรงกับสถานการณ์ แชร์ไว้เป็น Guideline และแลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ
– ใครเดินทางไปต่างประเทศ กรณีแจ้งลาไว้นานแล้ว บังคับ Work from home 14 วัน เฝ้าระวังอาการ
– ใครเดินทางภายในประเทศด้วยเครื่องบิน กรณีแจ้งลาไว้นานแล้ว Work from home 7 วัน เฝ้าระวังอาการ
ใจจริงอยากให้เลื่อนไม่ก็ยกเลิกแหละ แต่บังคับกันไม่ได้…
Work from home ในกรณีนี้จะเป็นรูปแบบพิเศษ คือทุกเช้าต้องส่ง plan บอก lead ว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง อยากได้ความช่วยเหลืออะไรบ้าง ทุกเย็นต้อง report ส่ง และพร้อม Video Call เสมอ
– ใครแจ้งลาไปบินไปต่างประเทศ หรือบินกลับต่างจังหวัดหลังจากวันที่ประกาศ … ‘บังคับลา’ เฝ้าอาการ 7-14 วันทันที โดยให้ใช้วันลาตัวเอง หรือเป็น Leave without pay
ผมแจ้งน้องๆ ทุกคนในออฟฟิศให้เข้าใจว่าที่เข้มแบบนี้ ไม่ได้ Panic ไปเองนะโว้ย แต่รัฐบาลประกาศเฝ้าระวังระดับ 3 แล้ว ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไป …ตอนนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ หากใครอยากรับความเสี่ยงบินตอนนี้ ก็ต้องรับเงื่อนไขนี้ให้ได้เพื่อส่วนรวม
– ปกติมีโควต้า Work from home อยู่แล้ว แต่กรณีจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยง จะมีการประกาศ Work from home พิเศษให้ x วันต่อวีคในรูปแบบ fix วัน (ยังไม่สรุป) ช่วงนี้เตรียมความพร้อมตัวเองรอไว้ ที่ทางทำงานจากบ้าน อินเตอร์เนท การติดต่อต่างๆ
การป้องกันพื้นฐานก็จะพยายาม provide ให้ เช่น พวกสบู่ หรือ เจลล้างมือ
อาจจะดูเข้มงวด แต่เจตนาคือห่วงความปลอดภัยของทุกคนจริงๆ ไม่อยากให้มาติดกันเองในออฟฟิศกว่า 50 ชีวิต คนมีเชื้อก็ไม่รู้ตัว เกิดติดกันเอง คนแพร่ก็รู้สึกผิดกันไปเองเปล่าๆ ออกนโยบายกันไว้เลยดีกว่า
บริษัทใครมีแนวทางไหนดีๆ ป้องกันดีๆ มาแชร์กันได้
ทีม SCB
ไทยพาณิชย์เฝ้าระวังไวรัสโควิด–
ธนาคารไทยพาณิชย์ดำเนินการเฝ้
ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้ความสำคัญขั้นสูงสุดในการป้
นอกจากนี้ พนักงานทุกคนต้
พนักงาน หรือ บุคคลที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกั
เพื่อป้องกันความเสี่ยงและปกป้
สำหรับบุคคภายนอกที่เข้ามาปฏิบั
ด้านมาตรการดูแลพนักงานและบุ
กรณีผู้มาติดต่อที่เป็นชาวต่
นอกจากนี้ ธนาคารพิจารณาติดตั้งเครื่
นอกจากนี้ ธนาคารจะดำเนินการตรวจวัดอุณหภู
ด้านเครือข่ายสาขาจัดให้พนั
ขณะเดียวกันธนาคารได้ออกสื่
ทีม TRUE
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่กำลังขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชนเป็นอย่างมาก กลุ่มทรู มีความห่วงใยลูกค้า และมิได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้เพิ่มมาตรการรับมือเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ ทั้งที่ ทรูช้อป 424 สาขา ทรูคอฟฟี่ 140 สาขา ทรูแบรนด์ดิ้งช้อปและทรูสเฟียร์ 16 สาขา รวม 580 สาขาทั่วประเทศ
โดยในบริเวณทุกช้อปดังกล่าว ได้จัดเตรียมอุปกรณ์เจลล้างมือแอลกอฮอล์ที่ได้มาตรฐาน ให้ลูกค้าได้ใช้ฆ่าเชื้อขณะเข้ารับบริการ รวมถึงเพิ่มความถี่ในการความทำความสะอาดจุดสัมผัสสาธารณะในทุกช้อปทุกๆ 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ ในส่วนของพนักงานที่จะให้บริการลูกค้า บริษัทฯ ได้กำหนดให้สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน
ยิ่งไปกว่านั้น หากมีพนักงานเดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเก๊า เกาหลีใต้ ไต้หวัน มาเลเซีย เวียดนาม อิหร่าน และอิตาลี พนักงานจะต้องหยุดพักและแยกตัวเอง (Self-quarantine) เพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อไวรัส COVID-19 โดยให้ปฏิบัติงานอยู่ที่บ้าน (Work at Home) เป็นระยะเวลา14 วัน หลังจากเดินทางกลับถึงประเทศไทย และเมื่อครบกำหนดแล้ว ต้องไปรับการตรวจ ณ โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน พร้อมนำใบรับรองแพทย์ มาแสดงในวันที่กลับมาปฏิบัติงาน
ทั้งนี้ กลุ่มทรู ตระหนักถึงความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยของลูกค้าเป็นสำคัญ โดยยังคงเคร่งครัดใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างต่อเนื่อง และขอยืนยันว่า ณ ขณะนี้ 28 กุมภาพันธ์ 2563 ยังไม่ปรากฏมีพนักงานทรูคนใดติดเชื้อไวรัส COVID-19 พร้อมขอความร่วมมืองดเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจากบริษัทฯ โดยขอให้ติดตามข่าวสารจากบริษัทโดยตรงเท่านั้น
ทีม DTAC
ดีแทคชี้แจง กรณีการให้บริการลูกค้าในช่
ตามที่ได้มีผู้สอบถาม จากโซเชียลมีเดีย กรณีพนักงานที่ศูนย์บริการดีแทค เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น จากทริป แล้วกลับมาทำงานให้บริการลูกค้
- ดีแทคได้ประกาศปิดให้บริการศู
นย์บริการทั้งหมด 5 สาขา ที่มีพนักงานกลุ่มดังกล่าวสังกั ดอยู่ ซึ่งสาขาดังกล่าวได้แก่ ศูนย์บริการดีแทค สาขาระยอง สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกท สาขานครศรีธรรมราช สาขาเซ็นทรัล พระราม 3 และสาขาเซ็นทรัลสุราษฎร์ธานี - ดีแทคจะจัดทำความสะอาดและฆ่าเชื้
อในบริเวณพื้นที่ให้บริการทั้ง 5 สาขา โดยปิดทำการตั้งแต่วันนี้ และจะเปิดทำการปกติในวันที่ 13 มีนาคม 2563 - สำหรับพนักงานในสาขาดังกล่าวที่
เพิ่งเดินทางกลับจากญี่ปุ่นเมื่ อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่ มเสี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทั้งหมด จะเฝ้าระวังอาการอยู่ที่บ้านเป็ นเวลา 14 วัน
ทั้งนี้ ดีแทคได้กำหนดมาตรการป้องกั
อย่าเพิ่งเกลียดหนู! แซลมอนก็ไม่ได้เป็นของต้องห้าม
สภาอุตสาหกรรมนอร์เวย์ขอชี้
โดยองค์กรอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่
ผู้บริโภคยังคงสามารถรั
แซลมอนจากนอร์เวย์ได้รั
การเพาะเลี้ยงแซลมอนจากนอร์เวย์
ซึ่งทั้งหมดที่รวบรวมมาให้อ่านนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่านตัดสินใจและลดความตื่นตระหนกในการเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ หากเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงก็ควรระมัดระวังและปฏิบัติตามกฏเพื่อลดปัญหาการลุกลามของโรคดังกล่าว ส่วนใครที่ไม่ได้เดินทางไปไหนก็ป้องกันตนเองและดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ