แม้ว่า Pinterest จะไม่ใช่แพลตฟอร์มที่คนไทยใช้งานมากเท่ากับในสหรัฐอเมริกา แต่เครื่องมือนี้สามารถเข้าถึงคนจำนวนมากได้อย่างน่าสนใจ เพราะ Pinterest มีผู้ใช้งานปักหมุดไว้มากถึง 2 แสนล้านพิน จากการใช้งานทั่วโลก หากนักการตลาดต้องการที่จะขยายธุรกิจสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาก็ต้องไม่พลาดแพลตฟอร์มนี้ เรามาดูข้อมูลที่น่าสนใจกันเลยดีกว่า
ต้องบอกก่อนว่าข้อมูลตัวเลขทั้งหมดนี้ เป็นตัวเลขภาพรวมในสหรัฐอเมริกาเป็นหลักนะครับ
ภาพรวมตัวเลขการใช้งาน
ปีที่แล้วเป็นปีแห่ง Banner ของ Pinterest เมื่อเทียบกับโซเชียลแพลตฟอร์มอื่นๆ โดยฐานผู้ใช้งานของ Pinterest เพิ่มขึ้น 26% จากเดิมที่มีผู้ใช้งานกว่า 335 ล้านรายในปี 2019
และตลอดปี 2019 มีผู้ใช้งานเฉลี่ย 70 ล้านรายต่อเดือน ทำให้ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน Pinterest มากถึง 335 ล้านคนทุกเดือน ซึ่งมีปริมาณผู้ใช้งานสูงมาก เมื่อเทียบกับ Facebook ที่มีผู้ใช้งานเพียงเดือนละ 2,500 ล้านคน (MAUs)
แม้ว่า Pinterest จะเคยปิดตัวลงโดยมี Snapchat ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียขนาดใหญ่อันดับ 3 ในสหรัฐอเมริกา รองจาก Facebook และ Instagram
บริษัทนักวิเคราะห์อย่าง eMarketer คาดการณ์ว่า สิ้นปี 2019 ทาง Pinterest จะมีผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกากว่า 82.4 ล้านคน ด้าน Snapchat จะมีผู้ใช้งาน 86 ล้านคนในไตรมาสที่ 4 ของปี 2019 ส่วน TikTok มีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มสูงเป็นอันดับถัดมา อยู่ที่ 80 ล้าน MAUs
ทางด้านของรายได้ ในปีที่ผ่านมา Pinterest ทำรายได้กว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐเช่นเดียวกับเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งปีก่อนหน้านี้ ทำรายได้เพิ่มขึ้น 51% หรือกว่า 1,140 ล้านเหรียญสหรัฐ (2018-2019) โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้ มาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำโฆษณาได้ดีขึ้นกว่าเดิม
ภาพรวมด้านการใช้งาน
ทางด้านของข้อมูลเชิงกายภาพของผู้ใช้งานนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง ช่วงอายุ 18-64 ปี โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีการใช้งานเป็นประจำ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีผู้ชายใช้งาน Pinterest นะครับ เพราะกว่า 20% ยังเป็นผู้ชายที่รับชมโฆษณาบน Pinterest
แต่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่อาศัยในสหรัฐอเมริกา และเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้สูง เฉลี่ยเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้ 75,000 เหรียญสหรัฐต่อปี เฉลี่ยอยู่ที่ 2.46 ล้านบาทต่อปี
ประเภทการใช้งานของเหล่า Pinner มีการค้นหากว่า 8 ครั้งต่อเดือน ทำให้ภาพรวมการค้นหาแตะ 2,000 ล้านครั้งและ Pinn ไว้เพื่อกลับมาดูซ้ำกว่า 2,000 ล้านพิน และมีการบันทึกไว้บนบอร์ดกว่า 4,000 ล้านบอร์ดทั้งแพลตฟอร์ม และส่วนใหญ่คนยังเข้าใช้งาน Pinterest ผ่านมือถือมากกว่าช่องทางอื่นๆ
ต้องจำไว้ว่า ยิ่งมีคนใช้ Pinterest เพื่อการค้นหาข้อมูลมากเท่าไหร่ ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินหน้ากลยุทธ์ได้ดีขึ้นเท่านั้น
การค้นหาด้วยภาพมีความแม่นยำมากถึง 62% ในมุมมองของเหล่า GenZers พวกเขามองว่า Pinterest ตอบโจทย์การค้นหาด้วยภาพได้ดีในฐานะโซเชียลมีเดียที่มีความนิยมในสหรัฐอเมริกาโดยความนิยมในการค้นหาด้วยภาพนั้น เพิ่มขึ้น 140% ระหว่างปี 2017-2018 ซึ่งมีการค้นหาเพิ่มขึ้น มากถึง 2,500 ล้านรายการในกลุ่มสินค้าประเภทแฟชั่น
โดย 48% ของการค้นหาภาพมาจากคนที่อยากช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นใหม่ๆ หลังจากดูภาพเรียบร้อยแล้ว เรียกว่ามีอัตราการซื้อมากกว่าโซเชียลมีเดียประเภทอื่นๆ
นอกจากนี้ Pinterest ยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Try On โดยเครื่องมือนี้ช่วยให้เหล่า Pinner ลองสินค้าที่พวกเขาสนใจ โดยมีสินค้าประเภทเครื่องสำอางค์อย่าง ลิปสติก เปิดโอกาสให้ผู้สนใจขอสินค้าไปทดลองใช้ก่อนได้ด้วย
ถ้าคุณเคยได้ยินคำว่า ‘the Pinterest Rabbit Hole’ หมายถึงการที่ผู้ใช้งานได้กำหนดให้บาง Pinn ขึ้นแสดงผลใน Feed ของเขาได้ ดังนั้น นักการตลาดจึงควรกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เพื่อที่เหล่า Pinner ได้เห็นสินค้าที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
และในปี 2020 นี้ “ภาพ” ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการค้นหาและเชื่อมโยงกับการค้นหาแบบวีดีโอได้ด้วย เราจึงจะเห็น Pinterest ออกฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการค้นหาให้ดีขึ้น เพราะ Pinner มองว่าวีดีโอกำลังเป็นรูปแบบความนิยมในการใช้งาน ทำให้วีดีโอโปรโมทที่เป็นรูปแบบวีดีโอได้รับความนิยมมากขึ้น
ทางด้านของแนวทางการโฆษณาเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาสพบว่า มีนักการตลาดให้ความสนใจลงโฆษณาเพิ่มขึ้นกว่า 12% ในปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่วนหนึ่งมาจากการระบุเป้าหมายได้ดีกว่าเดิม
แม้ว่าผู้ใช้งานกว่า 79.4 ล้านคนจะอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา หรือคิดเป็น 47% ของฐานผู้ใช้งานทั้งหมด รองลงมาคือ เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษและแคนาดา
ซึ่งผู้หญิงยังคงเป็นสัดส่วนหลักในการเข้าใช้งาน Pinterest
นอกจากนี้ ก็มีนักการตลาดให้ความสนใจในแพลตฟอร์มนี้เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีรายได้กลับมาสู่ธุรกิจ หลังจากลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Pinterest โดยทำรายได้เพิ่มขึ้นให้กับแบรนด์ถึง 15% ในปี 2018 รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อเดือน (ARPU) เพิ่มขึ้น 1.22 เหรียญสหรัฐ เฉลี่ยที่ 40 บาทต่อคน ทำให้นักการตลาดสนใจจะโฆษณาผ่านช่องทางนี้
อย่างไรก็ตาม การโฆษณาในช่วงเวลาพิเศษหรือเทศกาลต่างๆ จะทำให้เพิ่มโอกาสในการซื้อและขายได้ดีขึ้นมากกว่าโซเชียลมีเดียอื่นๆ ถึง 1.6 เท่า แต่สิ่งท่ีต้องระวังคือ การทำแคมเปญในช่วงวันหยุดยาวหรือเทศกาลใดๆ ควรวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 30-45 วัน เพื่อให้เห็นผลในระยะยาวได้ดีกว่า
ตัวเลขที่นักการตลาดไม่ควรมองข้ามในการใช้แพลตฟอร์ม Pinterest คือ
- Pins ที่มี Call to Actions จะเพิ่มโอกาสทางการขายได้ดีขึ้น 6%
- Pins ที่มีการเข้าใช้งานได้ดีจะช่วยสร้างโอกาสให้แบรนด์ที่มีธุรกิจคล้ายกันเพิ่มยอดขายออนไลน์ได้ 13%
- Pins ที่มีข้อเสนอหรือโปรโมชั่นพิเศษ จะเพิ่มความสนใจในการทำอีเมลมาร์เก็ตติ้งถึง 61%
- Pins ที่มีการอธิบายแบรนด์ชัดเจนตั้งแต่ประโยคแรกเพิ่มโอกาสให้คนอ่านอีเมลมาร์เก็ตติ้งเพิ่ม 54%
- Pins ที่มีคำอธิบายรายละเอียดสินค้าและราคา ครบถ้วนเพิ่มโอกาสในการซื้อผ่านออนไลน์ 28%
ดังนั้นแบรนด์ที่ต้องการขายสินค้าให้คนในอเมริกาต้องไม่พลาดนะครับ
ที่มา : Hootsuite