Steve Jobs เป็นศาสดาของใครหลายๆ คน เขาเป็นมนุษย์ที่น่าทึ่ง อันนี้เป็นความจริงที่ใครๆ ก็ยอมรับ แต่สำหรับบุคคลทั่วไปแบบเราๆ หากจะดำเนินธุรกิจของตัวเอง คงไม่ใช่วิธีที่ดีสักเท่าไรหากจะเลียนแบบ Steve Jobs … แต่เดี๋ยวก่อน สาวกอย่าเพิ่งก่นด่า บทความนี้หมายถึง Jobs ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่แสดงโดย Ashton Kutcher น่ะนะ
ทำไมไม่ดีล่ะ? Jobs ที่เราเห็นในหนัง คือ Jobs ที่เป็นซุป’ตาร์ แห่ง Apple ทำนายอนาคตได้แม่นยำอย่างกับตาเห็น แต่เป็นเผด็จการกับพนักงานของตัวเอง นั่นคือภาพจำของ Jobs ที่ปรากฏในสื่ออยู่เสมอๆ
เจ้าของธุรกิจหลายๆ คนพยายามจะเป็นผู้นำแบบ Steve Jobs หรือพูดให้ดีกว่านั้นคือมี Jobs เป็นต้นแบบ ซึ่งมันก็เดาได้ไม่ยากหรอกว่าทำไม เพราะ Jobs คือคนที่เปลี่ยนโลก เป็นคนพิเศษที่จะเรียกว่าอัจฉริยะเหนือมนุษย์ก็ได้ เขาหลักแหลมมากซะจนไม่อยากเดินตามกฎของคนอื่นๆ เขามีความเป็น “ขบถ” อยู่ในตัว ซึ่งมันทำให้ทุกคนรักเขา ไม่นับเรื่องความจู้จี้จุกจิกและการดูแคลนความคิดของคนอื่นน่ะนะ
แต่อย่าลืมว่าผู้นำหลายๆ คนที่ไม่ได้มีนิสัยแบบ Jobs เลยแม้แต่น้อยก็ยังสามารถนำพาธุรกิจให้อยู่รอดได้เป็นอย่างดี
และนี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้น หากคุณพยายามลอกเลียนสไตล์การบริหารงานแบบ Steve Jobs ที่คุณเห็นในภาพยนตร์และสื่อต่างๆ
1. คุณอาจจะคิดว่าคุณเป็นคนมีวิสัยทัศน์ (ทั้งที่ไม่มี)
เจ้าของธุรกิจหลายๆ คนคิดว่าความคิดของพวกเขานี่เจ๋งเอามากๆ แต่โชคร้ายไปหน่อยตรงที่ความคิดแบบนี้มันมีโอกาสที่จะพลาดสูงมาก หลายๆ คนคาดเดาไปว่า Jobs เพียงแค่มีไอเดียเฉียบขาดและทำมันออกมาให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่โลกชื่นชม สาเหตุนี้แหละที่ทำให้กระบวนการค้นหาความต้องการของลูกค้าไร้ความหมาย
ตัวอย่างคือ เมื่อเจ้าของธุรกิจพูดว่าพวกเขาอยากจะที่ทำเงินให้มากขึ้น ด้วยการนำเอาไอเดียที่มีอยู่ในหัวมาขาย และมันเป็นไอเดียที่ดีพอที่จะขายได้แน่ๆ แล้วคุณลองถามเขากลับไปว่า เขาได้ลองสัมภาษณ์ฝ่ายขายหรือลูกค้าไปกี่คนแล้วเพื่อทดลองแนวคิดดังกล่าว คำตอบที่คุณได้รับคือศูนย์
แทนที่จะพยายามสร้างก้าวที่ยิ่งใหญ่แบบ Jobs (ในภาพยนตร์) จงหันมาใส่ใจข้อมูล ให้ความสนใจกับการสัมภาษณ์ลูกค้า และติดตามเทรนด์ ซึ่งมันจะบอกคุณเองว่าคุณควรจะขายอะไร และขายอย่างไร คำว่า “มีวิสัยทัศน์” จึงเหมาะกับคนที่ฟังเสียงลูกค้ามากกว่า
2. คุณจะจู้จี้จุกจิกกับนักออกแบบเกินเหตุ
เมื่อบรรดาผู้นำทั้งหลายเห็นว่า Jobs ทำอะไรบ้างกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ของ Apple ในกำมือของเขา เมื่อนั้นเองผู้นำเหล่านั้นก็จะเริ่มตำหนินักออกแบบของตัวเองบ้าง จากที่เป็น CEO อยู่ดีๆ พวกเขาก็เริ่มกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ UI และ UX แทน นั่นแหละ สาเหตุที่จะทำให้ทีมออกแบบเกลียดผู้นำของตัวเองล่ะ
ในบางครั้ง คุณอาจจะต้องเคี่ยวนักออกแบบอย่างหนัก เมื่อมีคนวิพากษ์วิจารณ์การออกแบบของผลิตภัณฑ์ แต่โดยทั่วไปแล้ว ควรให้อิสระมากพอที่พวกเขาจะสร้างสรรค์อะไรๆ ออกมาได้ตามต้องการ สิ่งที่ผู้นำควรจะมีให้คือคำแนะนำ (แต่ไม่ใช่ชี้นำแกมบังคับ) นอกจากนี้ก็ควรให้ทีมออกแบบได้ลองผิดลองถูกบ้างเพื่อเรียนรู้ หน้าที่ของผู้นำคือแสดงให้ทีมออกแบบเห็นว่าเป้าหมายคืออะไร หลังจากนั้นคือให้พวกเขาหาวิธีที่จะไปถึงจุดหมายนั้น
3. คุณจะกลายเป็นคนทำลายทีมจากภายใน
เราชอบ Jobs ที่ตะโกนใส่ลูกน้อง เพราะมันแสดงถึงคาแรกเตอร์ของเขาในภาพยนตร์ เหมือนๆ กับที่เราชอบเห็นปลาฉลามอ้าปากเตรียมงับเหยื่อในสารคดี เพราะมันสร้างความตื่นเต้น เร้าใจ พาให้เราอินไปกับสิ่งที่เรารับชม…แต่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับชีวิตจริงของตัวเอง (ใช่ไหมหล่ะ)
เมื่อผู้บริหารพยายามจะใช้ Jobs เป็นต้นแบบในการบังคับบัญชาให้ทีมทำในสิ่งที่เขาต้องการ มันจะกลายเป็นจุดจบของธุรกิจ เมื่อพนักงานรู้สึกว่าถูกคุกคาม (ทางความคิด) ผลงานของพวกเขาจะด้อยคุณภาพ แต่ถ้าพวกเขารู้สึกปลอดภัย (ที่จะแสดงความเห็น) และได้รับการยอมรับ พวกเขาจะสร้างผลงานดีๆ ได้ หน้าที่ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของคนที่เป็นผู้นำคือพยายามปกป้องคนในทีมจากปัญหาภายใน เพื่อให้คนในทีมอยากปกป้ององค์กรจากภัยคุกคามภายนอก แน่นอนว่าเมื่อคุณปฏิบัติกับพวกเขาไม่ดี มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเห็นว่าองค์กรนี้ดีพอที่ตัวเขาเองจะปกป้อง ลองคิดดูว่าพวกเขาจะปกป้องทีมได้อย่างไรในเมื่อตัวเขาเองยังไม่รู้สึกปลอดภัย
แทนที่จะเป็นเผด็จการ ผู้นำที่ดีควรปฏิบัติต่อทีมเหมือนคนในครอบครัว เมื่อมีข้อโต้แย้งก็ให้ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับการจะพัฒนาธุรกิจ สิ่งสำคัญคือการทำให้คนในทีมสามารถแสดงความเห็นได้อย่างเสรี อย่าลืมว่า Steve Jobs เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ Apple มาไกลได้ถึงขนาดนี้ แต่เขาจะทำให้มันสำเร็จไม่ได้เลยหากปราศจากทีม คุณเองก็เช่นกัน อย่าลืมนึกถึงจิตใจของทีมที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จขององค์กร
————————
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนอ่านนะคะ ทั้งคนที่เป็นสาวกและไม่เป็นสาวก เก็บ Steve Jobs ไว้เป็นแรงบันดาลใจได้ เลือกสิ่งที่ดีมาใช้ (ซึ่งมีอยู่เยอะมาก) ก็สร้างประโยชน์ให้กับองค์กรได้เหมือนกันค่ะ ^^
ที่มา Inc.com