ปัจจุบันนี้ บริษัทและองค์กรต่างๆ ได้หันมาใช้ social media ชื่อดังอย่าง?Facebook และ?Twitter ในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเดิมและ “เรียก”ลูกค้าใหม่ให้กับตัวเอง แต่นั่นอาจเป็นเหตุทำให้ช่องทางดั้งเดิมอย่าง “เว็บไซต์บริษัท” ถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย
สิ่งสำคัญที่บริษัทต้องการดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ และเพิ่มยอดแทรฟฟิกผ่านช่องทาง?social media แต่ที่จะลืมไม่ได้คือกลยุทธฺพื้นฐานที่สามารถเพิ่ม conversion rates (อัตราการแปลงผู้ชมเป็นลูกค้า) สำหรับแทรฟฟิกที่มีอยู่บนหน้าเว็บไซต์ของตน
กลยุทธ์ดังกล่าว หากใช้อย่างถูกต้องแล้ว ไม่เพียงจะช่วยเพิ่ม conversion rate และรายได้จากช่องทาง social media แต่ยังช่วยยกระดับให้อยู่เหนือคู่แข่งอีกด้วย
เว็บไซต์ยังเป็นส่วนสำคัญในการเป็นแหล่งข้อมูล และเป็นพื้นที่ทำธุรกรรม ไม่เกี่ยงว่าลูกค้าจะเข้ามาหาบริษัทจากช่องทางใดก็ตาม (เช่น ลูกค้าอาจเป็นแฟนเพจบนหน้า Facebook แล้วลิงค์ต่อเข้ามาอ่านข้อมูลและทำธุรกรรมบนเว็บไซต์ของบริษัท) เว็บไซต์ของบริษัทเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูลลูกค้า และสามารถช่วยให้แบรนด์บริษัทอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า เสริมภาพลักษณ์ให้ดีกว่าด้วย
กลยุทธ์ทั้ง 5 ประการมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
1. เข้าใจลูกค้า
ใส่ใจการเก็บข้อมูลลูกค้า ในแง่ของพฤติกรรมการใช้งานบนเว็บไซต์ หากบริษัทสามารถเก็บข้อมูลที่ลูกค้าสนใจ (โดยดูจากหน้าเพจที่ลูกค้าแต่ละคนเปิดเข้าไปดู) รู้ว่าลูกค้ามองหาอะไร ค้นหาอะไร ไม่ใช่สนใจแค่ว่าลูกค้าซื้ออะไรไป
ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะโชว์รองเท้า Air Jordans รุ่นล่าสุดให้กับลูกค้าที่มีประวัติเปิดหารองเท้ากีฬาไนกี้?ร้านค้าที่ทำโปรโมชั่นโดยตรงแบบนี้จะมียอดสั่งซื้อเป็นเท่าตัว
2. ทำให้เว็บไซต์มีความเกี่ยวข้องกับลูกค้า
เว็บไซต์ควรปรับข้อมูลหรือข่าวประชาสัมพันธ์?ให้อัพเดตและทันกับสถานการณ์อยู่เสมอ เช่น ข้อมูลจากโลเคชั่นของลูกค้า หากบริษัทส่งข่าวหรือข้อมูลที่ customize เฉพาะกลุ่ม (เช่น ลูกค้าต่างประเทศได้รับข่าวเกี่ยวกับส่วนลดค่าส่งสินค้า หรือสิทธิประโยชน์ที่มีให้กับลูกค้าทางไกล) จะช่วยจูงใจให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อของได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ การปรับให้แสดงข้อมูลบนหน้าเว็บเป็นพิเศษสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่ม ตัวอย่างเช่น ลูกค้าที่เข้าหน้าเว็บไซต์ผ่าน?Facebook หรืออีเมลข่าว อาจมีความสนใจไม่เหมือนกัน จึงควรแสดงข้อมูลที่ต่างกันเพื่อให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการซื้อและการใช้งาน
3. ใช้ข้อมูล Offline เพื่อเข้าใจ Online
ร้านค้าต่างๆ ที่มีช่องทางการสื่อสารหลายทาง ที่ได้มีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าของตนเองเอาไว้ สามารถนำมาใช้บนการสื่อสารออนไลน์ได้ เช่น สมมติว่าสาวๆ เชียงใหม่ชอบกระเป๋ายี่ห้อ Coach มากกว่า Longchamp ก็เน้น Coach บน online transaction สำหรับคนเชียงใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่ม conversion rate และ ยอดสั่งซื้อออนไลน์อีกด้วย
4. ทำให้ต่อเนื่อง
ความต่อเนื่องเป็นหัวใจในการพัฒนาเว็บไซต์ แทรฟฟิคที่มาจากช่องทางภายนอก (เช่น social media) จะเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าได้ง่ายขึ้น หากมีข้อมูลข่าวสารส่งให้แกลูกค้าอย่างต่อเนื่อง (เช่น Twitter followers ได้รับส่วนลด 20%) ให้มีข้อความง่ายๆ ที่ช่วยเน้นย้ำสิ่งที่ลูกค้าสนใจตั้งแต่แรก ซึ่งหลักๆ ก็คือโปรโมชั่น ส่วนลด และสินค้าใหม่ นั่นเอง
5. ทดสอบ ทดสอบ และ ทดสอบ
การจะรู้ว่าเว็บไซต์นี้มีคนเข้าร่วมจริงหรือไม่ เจ้าของแบรนด์ต่างๆ ควรจะได้ต้องทดสอบเพื่อให้มั่นใจว่าเนื้อหาและการออกแบบบนเว็บไซต์เหมาะสมและตอบโจทย์ลูกค้าของตน ไม่ว่าจะเป็นข้อความที่จะสื่อกับลูกค้า, การออกแบบปุ่มหรือเลย์เอาท์?ลองใช้เครื่องมือช่วยทดสอบเว็บไซต์เป็นตัวช่วยในการทำการตลาด
ที่มา: Mashable