หลายปีที่ผ่านมา นักการตลาดเจ้าของแบรนด์หลายคนทั่วโลกต่างหวังที่จะเพิ่มยอด Like ให้กับ Facebook Brand Page ของตัวเอง เพราะยิ่งมียอดคน Like มากแค่ไหนก็ยิ่งมีโอกาสเข้าถึงคนมากขึ้นเท่านั้น แต่คำถามก็คือบรรดา Fan ที่มากด Like นั้นเอาเข้าจริงๆ มีสักกี่คนที่จะมาติดตามแบรนด์จริงๆ จังๆ ก็มีทีมวิจัยจากแดนจิงโจ้เขาออกมาบอกว่าเอาเข้าจริงๆ มีคนเพียงแค่ 1% เท่านั้นเองที่ติดตามแบรนด์แบบจริงจัง มาดูรายละเอียดกัน
อ้างจากการศึกษาของสถาบันวิจัย Ehrenberg-Bass? จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเข้าไปศึกษาเพจของแบรนด์ดังๆ กว่า 200 แบรนด์บน Facebook อย่าง Procter & Gamble, Coca-Cola และอื่นๆ ราว 6 สัปดาห์ ด้วยการหยิบเอาหน่วยวัดที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้วของ Facebook ที่เรียกว่า “Talking About This” หรือมีคนพูดถึงเรามากน้อยแค่ไหนอย่างไรนั่นเอง (Talking about this จะเป็นการนับสถิติว่า Brand Page หนึ่งๆ เป็นที่นิยมเพียงใด โดยนับรวมยอดการที่มีคนคลิก like, post, comment, tag, และแชร์เกี่ยวกับเพจของเรา ลองอ่านรายละเอียดได้ที่ Faceblog และบล็อกของ @Jexep)
ผลที่ออกมาทางสถาบันพบว่าสัดส่วนของแบรนด์เพจส่วนใหญ่มีค่า Talking About This เพียง 1.3% หรือพูดได้ว่าจากยอดคลิก Like นับแสนนับล้านคนบน Brand Page นั้นมีคนที่ติดตามแบรนด์จริงๆ ไม่ได้มากอย่างที่เราคิดกัน โดยทางสถาบัน Ehrenberg-Bass ให้ความเห็นว่า จากตัวเลขที่ออกมามันระบุชี้ชัดว่า Facebook ไม่ได้แตกต่างจาก Mass media ทั่วไปเท่าไหร่ แต่มันก็เป็นช่องทางใหม่ที่มีประโยชน์ในการเข้าถึงผู้บริโภค นอกจากนี้ทางสถาบันก็ยังมีการศึกษาแยกอีกกรณีหนึ่งก็พบว่า คนบน Facebook ถ้าลงลึกในแง่ความถี่ในการซื้อคนบน Facebook ไม่ได้มีการซื้อเพิ่มหลังจากคนๆ หนึ่งได้คลิก Like เพื่อเป็น Fan ไปแล้ว
อ่านข่าวนี้แล้วเราเรียนรู้อะไร?
สำหรับนักการตลาด Facebook เป็นเครื่องมือที่ทำให้เราเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ใช้ทำวิจัยการตลาดก็ได้ แต่การตั้ง KPI (Key Performance Indicator) ไม่ควรตั้งจากยอด Like เพียงอย่างเดียว แต่ควรจะดูด้วยว่ามีค่า? Talk About This กี่ % เพราะมันจะระบุให้เรารู้ได้ว่า Brand Page ของเรานั้นมีคนติดตามอย่างคึกคักจริงหรือไม่ หรือมีเพียงแค่ยอด Like ของเก่าที่มีอยู่แล้ว แต่อาจไม่มีค่าอะไรจริงๆ เลยก็ได้
ที่มา: Ad Age Digital