ถือเป็นสถิติที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของวงการสื่ออเมริกันได้ชัดเจน เพราะการสำรวจล่าสุดพบว่าบริการสตรีมมิ่งทีวีออนไลน์อย่าง Netflix นั้นสามารถแย่งกลุ่มสมาชิกจากบริการเคเบิลทีวีในสหรัฐฯได้อย่างเป็นรูปธรรมครั้งแรกในปี 2013 ที่ผ่านมา งานนี้เคเบิลทีวีออกอาการเซ็งถ้วนหน้า เพราะนี้คือสัญญาณแสดงว่าเคเบิลทีวีต้องปรับตัวจริงจังก่อนจะถูกบริการสตรีมมิ่งแย่งรายได้ไปมากกว่านี้
แม้ว่าที่ผ่านมา เคเบิลทีวีอเมริกันอย่าง Dish และ DirectTV ล้วนมีแผนให้บริการสตรีมมิ่งทีวีออนไลน์เพื่อเอาใจชาวอเมริกันหัวใจดิจิตอล แต่ช่วงปีที่ผ่านมา การสำรวจกลับพบว่าผู้ให้บริการเคเบิลทีวีหลายรายกลับเริ่มพ่ายแพ้แต่บริการสตรีมมิ่งรายใหญ่อย่าง Netflix โดยเคเบิลรายใหญ่อย่าง Comcast, Time Warner และ Charter ต้องสูญเสียฐานสมาชิกให้กับ Netflix ไปราวรายละ 0.1%
ฟังดูตัวเลข 0.1% อาจจะน้อย แต่เมื่อคำนวณจากฐานสมาชิกทั่วสหรัฐฯ พบว่าลูกค้าของ 9 บริษัทเคเบิลรายใหญ่บอกเลิกการเป็นสมาชิกมากกว่า 1.73 ล้านราย ซึ่งรายงานจากบริษัทวิจัย Leichtman Research Group พบว่าเป็นอัตราบอกเลิกที่สูงกว่าปี 2012 ที่มีจำนวน 1.41 ล้านราย
นี่ถือว่าเป็นสถิติที่สะท้อนว่าธุรกิจเคเบิลทีวีอเมริกันกำลังได้ผลกระทบจากการเติบโตของบริการสตรีมมิ่งทีวี จุดนี้ บริษัทวิจัยอเมริกันวิเคราะห์ว่า เหตุผลหลักที่ทำให้เคเบิลทีวีเริ่มสูญเสียฐานสมาชิกไปคือการเติบโตของตลาดทีวีออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟน เนื่องจากปัจจุบัน ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในสหรัฐฯต่างพร้อมใจเสนอแพคเกจการใช้งานข้อมูลหรือดาต้าขณะเดินทางที่รองรับบริการทีวีสตรีมมิ่งออนไลน์ ซึ่งความสะดวกและง่ายในการชมมีส่วนทำให้สมาชิกเคเบิลทีวีปันใจในที่สุด
การสำรวจพบว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในสหรัฐฯสามารถเพิ่มลูกค้าสมาชิกบริการสตรีมมิ่งทีวีได้ถึง 1.4 ล้านรายในปี 2013 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นมากกว่าที่เคยทำได้ 1.2 ล้านรายในปี 2012
ที่สำคัญ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นถือเป็นการบอกใบ้ว่าตลาดความบันเทิงในสหรัฐฯและตลาดโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการทีวียุคดั้งเดิมหรือ traditional television service provider เพราะในอนาคต ยักษ์ใหญ่ไฮเทคอย่าง Hulu, Netflix, Amazon Prime และนานาบริการสตรีมมิ่งทีวีออนไลน์จะมีพัฒนาการที่เหนือกว่าปัจจุบัน ทำให้มีโอกาสสูงมากที่จะสามารถโกยยอดสมาชิกได้มากขึ้นอีกแน่นอน
ที่มา : VentureBeat