ในยุคที่ไม่ว่าใครๆ ต่างก็สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว และต่างก็กันมาใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อติดต่อสื่อสารกันมากขึ้น เป็นเรื่องไม่แปลกเลยถ้าโซเชียลเน็ตเวิร์กจะมีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคข่าวให้แตกต่างไปจากเดิมด้วย
เพราะจากผลการศึกษาโดย Pew Research เผยว่า 64% ของชาวอเมริกันใช้งาน Facebook และ 30% ใช้ Facebook เพื่อติดตามข่าวสารต่างๆ รอบตัวแบบรายวัน โดยผลการศึกษาดังกล่าวยังชี้อีกว่าแม้จะมีผู้ใช้งานบางกลุ่มที่ใช้ Facebook เพื่อติดตามข่าวสาร แต่ส่วนมากแล้วผู้ใช้งาน Facebook ที่เห็นข่าวต่างๆ นั้นมักเป็นเรื่องบังเอิญเสียมากกว่า 78% ของผู้ใช้งาน Facebook เผยว่าพวกเขาอ่านข่าวบน Facebook ด้วยเหตุผลอื่นๆ โดยผู้ใช้ Facebook เพื่อติดตามข่าวสารเพียง 34% เท่านั้นที่กด Like และติดตามแหล่งข่าวต่างๆ แสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมการบริโภคข่าวส่วนมากในปัจจุบันนั้นมาจากการบอกต่อกันของเพื่อน
นอกจาก Facebook แล้ว การศึกษาของ Pew Research ยังได้ศึกษาการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ ด้วย อย่างเช่น YouTube และ Twitter โดยประชากรวัยผู้ใช้ในสหรัฐใช้งาน YouTube เพื่อติดตามข่าวสาร 10% ใช้งาน Twitter เพื่อติดตามข่าวสาร 8% มีเพียง 2% เท่านั้นที่ยังนิยมใช้งาน Reddit นอกจากนี้การศึกษาดังกล่าวยังชี้ว่า กลุ่มผู้รับสารแต่โซเชียลเน็ตเวิร์กแต่ละแพลตฟอร์มนั้นจะมีเป็นกลุ่มคนที่แตกต่างกันไป เช่น ผู้รับสารบน LinkedIn ส่วนมากนั้นจะเป็นผู้ใช้งานที่มีการศึกษา และส่วนมากจะเป็นกลุ่มนักศึกษา ในขณะที่ผู้ใช้งาน Twitter นั้นจะเป็นกลุ่มคนที่มีอายุน้อยกว่ากลุ่มคนในโซเชียลเน็ตเวิร์กแพลตฟอร์มอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตามปอร์เซ็นต์ผู้ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อติดตามข่าวนั้นยังถือว่ามีจำนวนน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนผู้ประชากรทั้งหมดในสหรัฐฯ หากโซเชียลเน็ตเวิร์กยังเดินหน้าเพิ่มความนิยมขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าในอนาคตจะมีผู้ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อติดตามข่าวสารกันมากขึ้นอย่างแน่นอน
ที่มา : Business 2 Community