ย้อนกลับไปเมื่อประมาณหกปีที่แล้ว ในการเดินทางที่ถ้าไม่มีพาหนะส่วนตัว ก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจแต่เนิ่นๆ เพราะไม่รู้ว่าวันนี้จะได้เริ่มเดินทางเวลาไหน มีรถไปไหม จะส่งของก็ต้องไปที่ไปรษณีย์ไม่ก็ยกหูหาคนส่งของ หรือพอหิวจะทานอาหาร ถ้าไม่ได้ไปทานข้างนอก หรือจะสั่งอาหารให้มาส่ง ตัวเลือกก็ไม่ได้มีมากนัก แต่ปัจจุบัน แอพพลิเคชั่นอย่าง ‘แกร็บ’ ได้เข้ามามีส่วนในการอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน และเชื่อมต่อไลฟสไตล์ต่างๆ ในแต่ละวันเข้าไว้ด้วยกัน
ทุกวันนี้เราสามารถเรียกบริการจัสท์แกร็บ (JustGrab) ระหว่างแต่งตัวหรือทานอาหารเช้าเพื่อเดินทางไปทำงาน สั่งอาหารกลางวันพร้อมรับประทานอย่างสะดวกสบายที่บริษัทด้วยแกร็บฟู้ด (GrabFood) ไปประชุมนอกบริษัทด้วยความรวดเร็วด้วยแกร็บไบค์วิน (GrabBike Win) และส่งของขวัญให้คนที่คุณรักระหว่างวันด้วยแกร็บเอ็กซ์เพรส (GrabExpress) แถมไม่ต้องควักเงินสดเพราะจ่ายผ่านแกร็บเพย์ (GrabPay) เสาร์อาทิตย์
ถ้าคิดไม่ออกว่าจะไปไหนก็สามารถเปิดแอพแกร็บเพื่ออ่าน GrabDaily หน้าฟีดที่จะแนะนำสถานที่และเทศกาลที่น่าสนใจ หรือถ้าเงินสดไม่พอแต่อยากทานของหวานก็เอาคะแนนในโปรแกรมสะสมคะแนนแกร็บรีวอร์ดส (GrabRewards) ไปแลกทานได้
จะเห็นได้ว่าจากจุดเริ่มต้นของการเป็นเพียงแอพเรียกรถ ปัจจุบัน แกร็บ ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่ร่วมสร้างสรรค์เมืองอัจฉริยะและสังคมแบบไร้รอยต่อ และซูเปอร์แอพที่รวบรวมหลากบริการไว้ในแอพเดียว ทั้งบริการเดินทางที่มีตัวเลือกยานพาหนะที่หลากหลาย บริการรับส่งอาหาร บริการขนส่ง บริการชำระเงินผ่านบัตร และบริการทางการเงินสำหรับผู้ใช้ภายในแอพพลิเคชั่นเดียว
จากตัวเลขดาวน์โหลดกว่า 136 ล้านครั้งในภูมิภาคและหลายล้านผู้ใช้ในประเทศไทย แกร็บ ได้รับเสียงตอบรับที่ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ เสมอมาทั้งจากพันธมิตรชั้นนำและผู้ใช้ อาทิ ความสำเร็จล่าสุดในแคมเปญใหญ่อลังการรับตรุษจีน “แกร็บ เฮง เฮง เฮง แจกทีกว่า 100 ล้าน” ช่วงวันที่ 4 – 10 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งมีผู้ใช้งานและผู้ประกอบการร่วมกิจกรรมมากกว่า 3 ล้านรายในช่วงระยะเวลาแคมเปญเพียงเจ็ดวัน
ซึ่งต้องคอยจับตามองการเติบโตของแกร็บกันต่อไป เพราะเป้าหมายของแกร็บคือตอบแทนสังคมไทยและคนไทยทุกคนที่อยู่เคียงคู่เราในเส้นทางการเดินทางของการพัฒนาของเราเสมอมาและตลอดไป
บทความนี้เป็น Advertorial