เป็นเวลากว่า 10 เดือนแล้วที่ประเทศไทยปิดน่านฟ้าไม่ให้เที่ยวบินพาณิชย์เข้า-ออกประเทศจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของหลายธุรกิจเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่
ธุรกิจแลกเงินตราต่างประเทศถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จากรายได้จากค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนเงินที่หายไปทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศและนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางออกนอกประเทศ
วันนี้ทีมงานได้รับเกียรติจากคุณ แพม-สิตามนินท์ สุสมาวัตนะกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทเอส อาร์ ที ฟอเร๊กซ์ หรือ Superrich Thailand Forex มาพูดคุยถึงการปรับตัวและอนาคตของธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศครับ
อุตสาหกรรมท่องเที่ยววิกฤตหนัก ธุรกิจแลกเงินกระทบแค่ไหน
คุณแพม: ภาพรวมของธุรกิจแลกเงินมีอัตราการเติบโตแต่ละปี โตเป็น 2 digit ตลอด ตัวอย่างปีที่ผ่านมาก็เติบโต 20% ด้วยเทรนด์ที่ผู้คนเดินทางมากขึ้น แต่พอเจอกับโควิด-19 ทุกอย่างก็หยุดชะงักไป เพราะไม่สามารถเดินทางได้ หลายประเทศก็มีการล็อกดาวน์ ส่งผลใหเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งส่วนของลูกค้าที่ไม่สามารถเดินทางมาที่สามารถได้ และไม่มีความต้องการแลกเงินในช่วงนั้น ส่วนบริษัทเองที่เป็นธุรกิจให้บริการ และมีพนักงานจำนวนมาก ก็ต้องปรับเปลี่ยนในช่วงที่ปิดสาขา เช่น หมุนเวียนพนักงานเพื่อรีสกิล รวมถึงสร้างแผนกใหม่เพื่อที่จะดูแลลูกค้าให้มากขึ้น
การปรับตัวและเสริมกลยุทธ์
คุณแพม: ด้วยสถานการณ์ที่ยากลำบาก หลานบริษัทที่ต้องปิดตัวไป เราก็มองว่าพนักงานต้องปรับตัว ทั้งจากหน้าที่การเงินที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น หรือเปลี่ยนมาดูแลงานฝ่ายอื่นๆ ซึ่งเป็นส่วนที่เรามองเห็นความตั้งใจในการพัฒนา แล้วก็รับกับสภาพแวดล้อมที่มันเปลี่ยนไป เทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนไป คือชุดความรู้เดิมมันอาจจะไม่พอแล้ว ทุกอย่างพัฒนาไปทางออนไลน์มากขึ้น หลายคนก็เลือกเรียนรู้ด้านออนไลน์ ซึ่งเป็นการดึงทรัพยากรภายในองค์กรขึ้นมา
ที่บริษัทดำเนินมาถึงทุกวันนี้ ก็เป็นการร่วมมือของพนักงานหลายๆ ฝ่าย ในช่วงที่ห้างปิด พนักงานก็ไม่ได้หยุดอยู่กับที่ พยายามติดต่อลูกค้าอยู่ตลอดว่า เขายังมีความต้องการแลกเงินไหม แล้วเราจะดูแลเขาได้ยังไงบ้าง จากพนักงานที่ตั้งแผนกใหม่ขึ้นมาเป็น Client Service เพื่อดูแลและติดต่อลูกค้า เนื่องจากลูกค้าบางส่วนยังมีความต้องการที่จะแลกเงินอยู่ แต่สาขาปิด ห้างปิด ทีมก็หาช่องทางว่าลูกค้ากลุ่มไหนมีความต้อการแลกเงินอยู่ และเราจะสามารถอำนวยความสะดวกได้
จนเริ่มมีการกักตัว State Quarantine เลยเห็นโอกาสว่าลูกค้ากลลุ่มสถานทูตหรือคนที่เดินทางจากต่างประเทศ เมื่อกักตัวครบระยะเวลาแล้ว เราก็ไปบริการแลกเปลี่ยนเงินให้ได้ถึงที่
เมื่อธนาคารเข้ามาแข่งขันในธุรกิจแลกเงิน
คุณแพม: มองว่าการแข่งขันมากขึ้นมันก็ดี ลูกค้าก็มีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น อีกมุมหนึ่งเราต้องพัฒนาในส่วนลูกค้ากลุ่มที่เรากำลังดูแลอยู่ สร้างความสัมพันธ์ให้ลูกค้าเลือกเราอยู่ ด้วยเรทอัตราแลกเปลี่ยน เรื่องการบริการ เรื่องกิจกรรมที่เราสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เรียกได้ว่าส่งมอบให้มากกว่าการแลกเงิน ได้รับประสบการณ์เพิ่มเติมจากการที่เขามาใช้บริการที่ Superrich Thailand Forex
จุดแข็งของ SuperRich Thailand
คุณแพม: ช่องทางให้บริการที่เพิ่มขึ้น อย่างเมื่อก่อนการแลกเงินต้องเป็นเงินสดอย่างเดียว ปัจุบันก็มีช่องทางดิจิทัล ทางออนไลน์ด้วย ลูกค้าสามารถแลกเงิน โอนเงิน ชำระผ่านธนาคารได้ หรือมาแลกเงินแล้วทางบริษัทโอนเงินบาทเข้าบัญชีให้ได้ทันที ก็ช่วยประหยัดเวลา จากเดิมที่ลูกค้ามาแลกเงินเสร็จแล้วต้องถือเงินบาทไปที่ธนาคาร
สำหรับจุดแข็งมองว่าเรทอัตราแลกเปลี่ยนก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุด รองลงมาคือความสะดวก เดินทางสะดวก ช่องทางการติดต่อที่สะดวก และด้วยไลฟ์สไตล์ลูกค้าปัจจุบัน ความเร็วก็สำคัญ ส่วนเรื่องเรทเป็นจุดแจ็งของเราอยู่แล้ว พูดอีกอย่างคือ เราสามารถ Supply(จัดหา) ได้ตามที่ลูกค้าต้องการไม่ว่าจะเป็นสกุลเงินไหนก็ตาม
อนาคตของธุรกิจแลกเปลี่ยนเงิน
คุณแพม: ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนหลายๆ อย่าง ทั้งในส่วนของมาตรการเรื่องโควิดเอง เรื่องการใช้เครื่อง ใช้เทคโนโลยีแบบ UVC เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อ แล้วก็ช่องทางที่เราพัฒนามาเพื่อที่จะสามารถตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ลูกค้าได้มากขึ้น ช่องที่เป็นรูปแบบ Cashless การลดการใช้เงินสด แม้ปัจจุบันบางส่วนจะเป็น Banknote แต่ว่าอนาคตดิจิทัลไม่ใช่เรื่องใหม่แล้ว ตอนนี้มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว มันคือการปรับตัวให้เท่าทันกับโลก