ปัจจุบันด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตที่มีทันสมัยและสะดวกสบายมากขึ้น ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคมีรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะรูปแบบการชำระเงิน จากส่วนใหญ่ที่เป็นการชำระด้วยเงินสดเริ่มเปลี่ยนมาเป็นการชำระผ่านบัตรเพิ่มมากขึ้น หรือหากต้องชำระด้วยเงินสดก็จะใช้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น
จากการเก็บข้อมูลจากเว็บไซต์ Kaiku.com ที่ทำการสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวอเมริกันระบุว่า ปัจจุบันมีเพียง 6% ของผู้บริโภคในสหรัฐฯ เท่านั้นที่มีการชำระค่าสินค้าโดยการใช้เงินสดเพียงอย่างเดียว ในขณะที่ส่วนใหญ่เป็นการใช้เงินสดควบคู่ไปกับบัตรสูงถึง 90% และยังมีกลุ่มที่ไม่เคยใช้เงินสดเลยอีก 6%
รูปแบบการชำระเงินส่วนใหญ่ในปัจจุบันมี 3 ช่องทางหลัก คือ เงินสด, บัตรเครดิตและเช็ค โดยการชำระด้วยบัตรพบว่าเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมและมีการใช้งานสูงสุด โดยผลการสำรวจพบว่า การชำระเงินผ่านบัตรถูกใช้เพื่อชำระค่าสินค้าผ่านทางออนไลน์คิดเป็นสัดส่วนถึง 96% รวมไปถึงการซื้อสินค้าทั่วไป, เติมน้ำมันและจ่ายบิลต่างๆส่วนใหญ่ล้วนเป็นการชำระด้วยบัตรทั้งสิ้น ยกเว้นแต่การซื้อกาแฟเท่านั้นที่เป็นชำระด้วยเงินสดสูงถึง 68% แต่ก็ยังมีชาวอเมริกันบางส่วนที่จ่ายเงินค่ากาแฟด้วยบัตร ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 31.5%
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้บัตรแทนการใช้เงินสดเนื่องจาก ความสะดวกรวดเร็ว, ไม่ต้องเสียเวลารอเงินทอน แถมยังได้รับรางวัลจากการสะสมคะแนนผ่านบัตร
และนอกจากบัตรเครดิตที่มีใช้งานกันอย่างแพร่หลายแล้ว ล่าสุดพบว่า ชาวอเมริกันยังนิยมใช้บัตรในรูปแบบของบัตรชำระเงินล่วงหน้า (Prepaid Debit Card) สูงถึง 67% โดยส่วนใหญ่ใช้ในการซื้อสินค้าแบบออฟไลน์ 85% และออนไลน์ราว 15% ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ Prepaid Debit Card ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเนื่องจาก ไม่ต้องใช้เครดิตในการทำบัตร, สามารถควบคุมวงเงินที่ใช้ได้ และมีความสะดวกสบายเหมือนการใช้เงินสด แต่มีความปลอดภัยมากกว่า
ที่มา: Blog Kaiku