ต้องยอมรับว่าเยาวชนรุ่นหลังนั้นเติบโตมากับเทคโนโลยีการกดและสไลด์หน้าจอสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต หลังเทรนด์การผลิตแท็บเล็ตเพื่อเยาวชนนั้นกำลังเป็นที่นิยม เรามาลองมองในมุมของผู้บริโภคกันบ้าง ว่าเยาวชนนั้นใช้แท็บเล็ตกันมากแค่ไหน จากตัวอย่างของประเทศสวีเดน
จากผลสำรจโดยการสัมภาษณ์ผู้ปกครองกว่า 2,200 คน โดย Telenor Sweden ร่วมกับ TNS sifo ถึงเรื่องการใช้งานแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนในช่วงเดือนตุลาคม ปี 2013 ที่ผ่านมาพบว่าผู้ปกครองนั้นไม่ได้ปิดกั้น และยังสนับสนุนการใช้งานสมาร์ทดีไวซ์ให้แก่บุตรของพวกเขาอีกด้วย
โดย 15% ของผู้ปกครองที่มีบุตรอายุ 4 ปี และ 24% ของผู้ปกครองที่มีบุตรอายุ 5 ปีนั้นเผยว่าบุตรของพวกเขานั้นมีแท็บเล็ตเป็นของตัวเองกันแล้ว ซึ่งค่าเฉลี่ยขั้นต่ำของเยาวชนที่มีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเองนั้นอยู่ที่ 8.7 ปี และ 88% ของเยาวชนที่มีอายุ 11 ปีนั้นต่างก็มีสมาร์โฟนเป็นของตัวเองกันแล้ว ส่วนในกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนนั้นก็มีรายงานว่าพวกเขานั้นสามารถใช้งานแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนของคนใกล้ชิดได้เช่นกัน
โดยแท็บเล็ตนั้นดูเหมือนว่าจะได้รับความนิยมในกลุ่มเยาวชนมากกว่าสมาร์ทโฟน เนื่องจากสามารถใช้งานง่ายเพราะสามารถการเปิดปิดเครื่องได้ง่ายกว่า อีกทั้งหน้าจอยังมีขนาดใหญ่ ทำให้เยาวชนสามารถใช้เล่นเกมส์ ศึกษา หรือชมวิดีโอต่างๆ ได้ง่ายกว่าการใช้งานสมาร์โฟน
มีเพียง 1 ใน 10 ของผู้ปกครองเท่านั้นที่เผยว่าพวกเขาไม่ให้บุตรของพวกเขาเล่นสมาร์ทดีไวซ์ใดๆ เนื่องจากพวกเขามองว่า อุปกรณ์เหล่านั้นเป็นการสิ้นเปลือง บางส่วนคิดว่าเยาวชนอาจไม่สามารถรักษาอุปกรณ์เหล่านั้นได้ ที่เหลือมองว่าการให้เยาวชนใช้สมาร์โฟนนั้นไม่ใช่เรื่องจำเป็นเพราะพวกเขายังเด็กเกินไป แต่ถึงอย่างนั้นจำนวนครัวเรือนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ตไว้ในครองครองนั้นมีจำนวนที่ลดลงจากปี 2012 ซึ่งทาง Telenor Sweden ได้คาดการณ์ว่าจากนี้ไป ในอีก 4 ปีข้างหน้า 3 ใน 4 ของประชากรชาวสวีเดนจะหันมาใช้สมาร์ทโฟนกันมากขึ้น โดยมีเยาวชนเป็นกลุ่มใหญ่ของประชากรเหล่านั้น
ฉะนั้นหากผู้ปกครองนิยมให้เยาวชนใช้งานแท็บเล็ตมากกว่าสมาร์ทโฟน ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน เพื่อการศึกษาหรือเกมส์เพื่อเยาวชนควรพิจารณาการปรับแต่งแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานบนแท็บเล็ตมากขึ้น
ที่มา : eMarketer
ภาพ : zdnet