ตลาดแท็บเล็ตกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องในสหรัฐฯ โดยคาดว่าในปีนี้เกือบครึ่งของประชากรสหรัฐฯ จะกันมาใช้งานแท็บเล็ตอย่างน้อยก็เดือนละ 1 ครั้ง
นอกจากนี้จากข้อมูลของ eMarketer ยังเผยอีกว่าเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมามีผู้ใช้งานแท็บเล็ตในสหรัฐฯ มากถึง 132.2 ล้านคนและคาดว่าในปี 2014 นี้ยอดผู่้ใช้งานจะเพิ่มขึ้นถึง 11.3% มาอยู่ที่ 147.2 ล้านคนจากนั้นอัตราการเติบโตจะต่ำลงเรื่อยๆ และคาดว่าในปี 2018 จะมีผู้ใช้งานแท็บเล็ตมากถึง 171.3 ล้านคน หรือคิดเป็น 52.8% ของจำนวนประชากร
ซึ่งแท็บเล็ตนั้นเองก็เข้ามามีบทบาทต่อการสื่อสารการตลาดมากขึ้น โดยผู้ใช้งานเริ่มหันมาใช้แท็บเล็ตแทนที่การใช้งานคอมพิวเตอร์เพื่อการใช้งานในบ้านกันมากขึ้น เนื่องจากพวกเขาสามารถนำแท็บเล็ตไปใช้งานได้ทุกที่อีกทั้งขนาดหน้าจอนั้นมีขนาดใหญ่ทำให้ได้เปรียบอุปกรณ์แบบพกพาอื่นๆ
การชมวิดีโอออนไลน์นั้นเป็นส่วนที่ผลักดันให้แท็บเล็ตได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ในปี 2014 นี้ผู้ใช้งานแท็บเล็ตในสหรัฐฯ จำนวน 113.4 ล้านคนจะชมวิดีดออนไลน์บนแท็บเล็ตอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง คิดเป็น 77% จากจำนวนผู้ใช้งานแท็บเล็ตทั้งหมด โดยพฤติกรรมของผู้ใช้งานแท็บเล็ตจะเติบโตขึ้นถึง 87% ในปี 2018 ที่ผู้ใช้งานแท็บเล็ตประมาณ 149 ล้านคนจะใช้งานท็บเล็ตเพื่อการชมวิดีโอออนไลน์ ซึ่งคิดเป็น 70.1% ของจำนวนผู้ชมวิดีโอออนไลน์ทั้งหมด
ในขณะที่สมาร์ทโฟนนั้นมีผู้นิยมใช้งานเพื่อชมวิดีโอออนไลน์น้อยกว่า โดยคาดว่าจำนวนผู้ชมวิดีโอออนไลน์บนสมาร์ทโฟนจะมีมากขึ้นถึง 89 ล้านคนในปีนี้ และมากขึ้นถึง 125.4 ล้านคนในปี 2018 ซึ่งจากจำนวนดังกล่าวนั้นยังไม่ถึง 60% ของผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนทั้งหมดในสหรัฐฯ
จากเทรนด์ในปัจจุบัน eMarketer คาดว่าแท็บเล็ตจะกลายเป็นอุปกรณ์ที่เป็นผู้นำในการชมวิดีโอออนไลน์แทนที่คอมพิวเตอร์ในไม่ช้า นอกจากนี้นปีนี้ผู้ใช้งานแท็บเล็ตนั้นดูเหมือนว่าจะใช้เวลากับการชมวิดีโอบนแท็บเล็ตมากขึ้น จาก 13 นาทีต่อวันมาเป็น 20 นาทีต่อวันในปีนี้ ความนิยมในการชมวิดีโอออนไลน์บนแท็บเล็ตนั้นกำลังทิ้งตัวห่างจากสมาร์ทโฟนเป็นอย่างมาก โดยเวลาในการชมวิดีโอบนสมาร์ทโฟนต่อวันนั้นอยู่ที่ 9 นาทีต่อวันเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมาและคาดว่าจะอยู่ที่ 13 นาทต่อวันในปีนี้ อย่างไรก็ตามคอวพิวเตอร์ก็ยังเป็นอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานใช้เวลาในการชมวิดีโอออนไลน์นานที่สุดที่ 22 นาทีต่อวันในปีนี้ แต่ทว่าจะไม่มีการเติบโตต่ออย่างใด
แต่ถึงแม้การชมวิดีโอออนไลน์บนแท้บเล็ตจะได้รับความนิยมมากขึ้น แต่จากการคาดการณ์ล่าสุดของ eMarketer เผยว่านักการตลาดจะยังทุ่มประมาณเพื่อการโฆษณาแบบ Online Video มากกว่า Mobile Video โดยในปี 2014 นี้นักการตลาดจะใช้งประมาณมากถึง 4.45 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1 แสน 4 หมื่น 4 พันล้านบาท) ในการโฆษณาแบบ Online Video ในขณะที่ Mobile Video นั้นจะมีงบประมาณที่ 1.44 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 4 หมื่น 6 พันล้านบาท) เท่านั้น ซึ่งตัวเลขงบประมาณดังกล่าวจะเติบโตจนมีตัวเลขใกล้เคียงกันในปี 2018
ที่มา : eMarketer
ภาพ : Geeky-Gadgets