ปัจจุบันคำว่า Digital และ Disruptive คงไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป คงไม่มีภาคธุรกิจใดๆ ละเลยกับสองเทรนด์ได้นี้อีกต่อไปแล้ว เช่นเดียวกับโซเชียลเน็ตเวิร์ค ที่แทบทุกแบรนด์ใช้เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้บริโภค ซึ่งเฟลชแมน ฮิลลาร์ด ประเทศไทย เอเจนซี่ด้านประชาสัมพันธ์และดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งระดับโลก ได้พูดถึงหลักการเพื่อพาแบรนด์ไปสู่อีกขั้นของการสื่อสารในยุคดิจิทัล
สื่อตะวันตกรายงานเพิ่ม ประเด็น Trending Topics ของ Facebook ที่ทำให้การเมืองสหรัฐอเมริการ้อนฉ่าอยู่ในขณะนี้ อาจถูกดูแลโดยทีมงานที่ขาดประสบการณ์ หรือไม่ก็เป็นเด็กจบใหม่
นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า “ช่วงปี 2558 ที่ผ่านมา ไลฟ์สไตล์ของคนไทยก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว มีความคุ้นเคยกับการใช้งานเครือข่าย Data เชื่อมต่อโซเชียลเน็ตเวิร์กและเข้าถึงข้อมูลต่างๆ บนโลกออนไลน์อย่างแพร่หลายจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว
ทุกวันนี้ Facebook เป็นมากกว่าโซเชียลเน็ตเวิร์กเสียแล้ว เพราะยังเป็นห้องปฏิบัติการที่ใช้ทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ออนไลน์อีกด้วย โดยทางบริษัทได้ทำการเปิดเผยรายงานการวิจัยว่า ได้ทำการทดลองในผู้ใช้กว่า 700,000 คน ที่มีผลกระทบต่อการถ่ายทอดทางอารมณ์ในโลกออนไลน์
ในปัจจุบันเรามักจะเห็นว่าบางคนใช้เวลาอยู่บนโลกโซเชียลมากกว่าชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Google+ และอีกหลายบริการโซเชียลมีเดียอื่นๆ ไม่เว้นแม้อยู่ในที่ทำงาน แผนก IT ประจำบริษัทคงทราบดีว่าพนักงานเหล่านี้ให้เวลาในการท่องโซเชียลเน็ตเวิร์กมากเพียงใดในแต่ละวัน พฤติกรรมเหล่านี้จะไม่เป็นที่กังวลแก่เจ้าของธุรกิจอีกต่อไป เพราะมีทางออกในการเปลี่ยนให้เป็นผลประโยชน์ต่อองค์กรได้
ในยุคที่ผุ้บริโภคเริ่มมีความคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าหรือบริการต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ผู้ประกอบการค้าปลีก หรือแบรนด์ต่างก็หันมาพัฒนาช่องทางการสื่อสาร และช่องทางการจับจ่ายสินค้าให้แก่ผู้บริโภค แม้โซเชียลเน็ตเิร์กจะทำให้นักการตลาดสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ แต่โซเชียลเน็ตเวิร์กนั้นกลับไม่สามารถสร้างยอดขายให้แก่พวกเขาได้มากอย่างที่คิด
จากผลการศึกษาโดย University of California ที่ได้เผยผลการศึกษาในรูปบทความบน PLOS One พบว่าการอัพเดทสเตตัสบนโซเชียลเน็ตเวิร์กในแง่บวกสามารถส่งผลให้บุคคลอื่น อัพเดทสเตตัสในแง่บวกบ้างเช่นกัน
โซเชียลเน็ตเวิร์ก ไม่ใช่แค่พื้นที่ส่วนตัว ในการโพสต์ทุกอย่างที่คุณพบ เห็น รู้สึก หรือคิดได้อย่างเสรีอีกต่อไป หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังตามหางานในฝันอยู่ การรักษาภาพลักษณ์บนโซเชียลเน็ตเวิร์กรวมไปถึงการแสดงผลงานและความสามารถบนโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้นก็มีความสำคัญเช่นกัน
แม้โซเชียลเน็ตเวิร์คจะเป็นช่องทางการสื่อสารใหม่ที่ง่ายและรวดเร็ว แต่การเปิดเผยข้อมูลผู้ใช้อย่างที่อยู่ เบอร์โทร หรือ อีเมล์นั้นยังไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใช้ชื่นชอบ หรือยินดีที่จะแชร์
คณะกรรมการกำกับดูแลมาตรฐานโฆษณาของอังกฤษกำลังเร่งมือหาทางแก้ไขปัญหาสังคมที่อาจเกิดขึ้นในกลุ่มเด็กที่แอบใช้เครือข่ายสังคมอย่างไม่ถูกต้อง เนื่องจากการสำรวจล่าสุดพบว่ามากกว่า 40% ของเด็กที่ลงชื่อใช้งานบนโซเชียลมีเดียโดยโกหกว่าตัวเองมีอายุเกิน 18 ปี ทำให้เด็กกลุ่มนี้ถูกเหมารวมว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายของโฆษณาบริการประเภทเครื่องดื่มมึนเมา การพนัน ผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน และบริการคลายเหงาที่ล่อแหลมในเรื่องเพศ ซึ่งล้วนเป็นโฆษณาออนไลน์ที่ไม่เหมาะสมกับเด็กเลย