วิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับภาคธุรกิจจนถูกเรียกว่า Covid-19 Disruption หรือก็คือการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันจากไวรัสโควิด-19
การเปลี่ยนแปลงทำให้ทุกคนต้องปรับตัวเข้าสู่ New normal หรือวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ สำหรับบริษัทเทคโนโลยีซึ่งมีการพัฒนาและปรับตัวอยู่ตลอดเวลา แต่บางบริษัทก็ไม่สามารถเอาตัวรอดได้ในช่วงเวลานี้
ผู้ชนะ – video conference
หลังมาตรการล็อคดาวน์ในหลายประเทศ หลายบริษัท/องค์กรให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) การประชุมผ่านโปรแกรมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์จึงเป็นสิ่งจำเป็น
แม้ว่า Zoom จะถูกร้องเรียนเรื่องปัญหาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว แต่ราคาหุ้น (ZM) ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวนับตั้งแต่เดือนธันวาคม จำนวนผู้ใช้จาก 10 ล้านรายในเดือนมกราคมพุ่งขึ้นเป็น 300 ล้านรายในเดือนเมษายน
เช่นเดียวกับโปรแกรมที่สนับสนุนการทำงานทางไกลอื่นๆ เช่น Microsoft Teams, Teamviewer, Slack จำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
ผู้ชนะ – เกม
การทำงานอยู่ที่บ้านเมื่อทำงานเสร็จก็ยังคงอยู่บ้าน การปรับโหมดให้ผ่อนคลายด้วยเกมส์จึงเป็นตัวเลือกแรกๆ ยกตัวอย่างเกม Animal Crossing บน Nintendo Switch ที่จำลองชีวิตบนเกาะของตัวละคร ซึ่งเล่นได้ไม่มีเบื่อ
นอกจากนี้เกมอย่าง Call of Duty ที่เพิ่งเปิดตัวเวอร์ชั่นใหม่ จำนวนผู้เล่นก็เพิ่มขึ้นเป็นหลายสิบล้านคนภายในเวลาไม่กี่เดือน
นักวิเคราะห์มองว่ายอดขายเกมเพิ่มขึ้นประมาณ 35% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รวมถึงยอดขายฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น 63% ส่งผลให้หมดสต็อกอยู่บ่อยครั้ง
ผู้ชนะ – สตรีมมิ่ง
ไม่ใช่แค่เกมเท่านั้นที่สามารถผ่อนคลายความเครียด การใช้จ่ายด้านความบันเทิงอื่นๆ ก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าใหญ่อย่าง Netflix มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น 16 ล้านบัญชี แม้ว่าการถ่ายทำภาพยนต์/ซีรีย์ใหม่จะต้องหยุดชั่วคราว แต่ยังคงมีเนื้อหาใหม่ลงบนแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ Disney+ คู่แข่งสำคัญของ Netflix ตอนนี้มีสมาชิกกว่า 50 ล้านบัญชีภายในระยะเวลาเพียง 5 เดือนหลังเปิดตัวเท่านั้น
การปิดบริการของโรงภาพยนตร์ผลักดันให้ผู้บริโภคเข้าสู่โลกออนไลน์ นอกจากทีวีและภาพยนตร์แล้ว Spotify ก็มีจำนวนผู้ใช้ทะลุ 130 ล้านรายในช่วงกักตัว
ผู้แพ้ – บริษัทคนกลาง
บริษัทที่ทำหน้าที่เป็นคนกลางในการให้บริการต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น Airbnb, Yelp, Wework
เมื่อผู้คนหยุดเดินทางเกือบทั่วโลกแพลตฟอร์มแบ่งปันที่พักอย่าง Airbnb รายได้ลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับของปีที่ผ่านมา และบริษัทได้ปลดพนักงานไปกว่า 25% หรือประมาณ 1,900 คนแล้ว
เช่นเดียวกันกับ Yelp เว็บไซต์รีวิวอาหารได้ปลดพนักงานกว่า 1 ใน 3 หลังจากร้านอาหารและบาร์ต้องปิดชั่วคราวจากมาตรการล็อคดาวน์ รวมถึง Wework สตาร์ทอัพบริการให้เช่าสำนักงานกำลังเผชิญปัญหาขาดทุนอย่างหนัก ซึ่งอาจส่งผลให้นักลงทุนรายใหญ่อย่าง Softbank ขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี