ออกมาปรับโฉมอีกรายสำหรับ Tesco Lotus Express โดยโอกาสนี้เป็นการปรับเพื่อเป้าหมายด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของบริษัทจากระบบทำความเย็นของซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งจะมีผลทำให้ประหยัดพลังงานได้เพิ่มขึ้น 10% หรือเทียบเท่ากับการลดจำนวนรถยนต์กว่า 67,000 คันออกจากท้องถนน
การปรับตัวครั้งนี้ ทาง Tesco บอกว่าใช้เวลาประมาณ 2 ปีจึงจะแล้วเสร็จ ซึ่งส่วนสำคัญคือการเปลี่ยนมาใช้สารทำความเย็น Solstice® N40 (R-448A) ของฮันนี่เวลล์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรสทั้งหมด 1,500 สาขาทั่วประเทศ
โดยข้อมูลจากแผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) ของรัฐบาลไทยได้ระบุถึงการใช้พลังงงานของซูเปอร์มาร์เก็ตว่าเป็นอาคารพาณิชย์ที่มีความเข้มข้นของการใช้พลังงานสูงสุด เนื่องจากระบบทำความเย็นมีขนาดใหญ่ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงครึ่งหนึ่งของการใช้พลังงานทั้งหมด
“เทสโก้ โลตัส มุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรค้าปลีกสีเขียว และเราภูมิใจที่ได้เป็นบริษัทค้าปลีกรายแรกในเอเชียที่เปลี่ยนมาใช้สารทำความเย็นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น” มร. มิโรสลาฟ ฟริมอล ประธานกรรมการฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ ของ Tesco Lotus กล่าว
การเลือกใช้สารทำความเย็นที่มีค่าการก่อภาวะโลกร้อนต่ำกันมากขึ้นนั้นคาดการณ์ว่าจะช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกลงได้มากกว่า 47 ล้านตันจนถึงปัจจุบัน หรือเทียบเท่าการขจัดปริมาณการปล่อยมลพิษไอเสียจากรถยนต์ 10 ล้านคัน