ในขณะที่การแข่งขันของร้านรีเทลดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ การหันมาสู่เทคโนโลยีออนไลน์หลากหลายวิธีเริ่มเป็นอีกทางออกสำหรับยักษ์ใหญ่รายต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่อันดับต้นๆ ของโลกอย่าง Tesco ในเกาหลีที่เปลี่ยนชื่อเป็น Home Plus ที่อยู่ในสภาวะของการเป็นอันดับ 2 ในแง่ของจำนวนสาขาทั้งหมด แต่ Home Plus ก็หาทางออกได้อย่างน่าสนใจด้วยการสร้าง virtual store ขึ้นมาผนวกกับเทคโนโลยี QR code และทำให้สถานีรถไฟฟ้ากลายเป็นหน้าร้านของ Home Plus ไปได้ทันที
สิ่งที่ Home Plus ทำก็คือการไปตกแต่งสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ ด้วยภาพจำลองให้เหมือนกับชั้นวางสินค้าในห้างด้วยการติดสติ๊กเกอร์บนแนวกระจก ซึ่งบนสติ๊กเกอร์เหล่านี้จะมีภาพของสินค้าเหมือนที่แสดงในสาขาอื่นๆ เพื่อสร้างบรรยากาศให้ใกล้เคียงกับการเดินซื้อสินค้าด้วยตัวเอง ในขณะเดียวกันบนชั้นวางของจำลองนี้ก็จะมีราคาสินค้า และ QR code เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถทำการสแกนได้
เมื่อลูกค้าทำการสแกนสินค้าแล้ว รายการต่างๆ ที่ถูกเลือกก็จะถูกเพิ่มเข้าไปในตะกร้ารวม จากนั้นเมื่อลูกค้าพอใจแล้วก็สามารถสั่งชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือได้ทันทีซึ่งยอดเงินก็จะถูกหักจากบัญชีที่ลูกค้าได้ทำการผูกกับระบบไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
หลังจากที่สั่งซื้อเรียบร้อยแล้ว ลูกค้าก็สามารถที่จะเดินทางต่อได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน ข้อมูลการสั่งซื้อก็จะถูกดำเนินการโดย Home Plus เพื่อจัดส่งให้กับลูกค้าได้ภายในวันเดียวกัน
จากขั้นตอนดังกล่าว เรียกได้ว่ากระบวนการสั่งซื้อทั้งหมดง่ายขึ้นกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่ห้าง และไม่ต้องกังวลกับการแบกถือสินค้า นอกจากนั้นสินค้าก็ยังจะถูกส่งให้ถึงบ้านภายในวันเดียวกันซึ่งรวมถึงวันหยุดต่างๆ ด้วย
จากการสร้างหน้าร้านจำลองดังกล่าว Home Plus สามารถขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของร้านรีเทลบนโลกออนไลน์ได้ทันที นอกจากนั้นยอดการสมัครใช้บริการและยอดขายก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วย
เรียกได้ว่าเป็นการนำเทคโนโลยีออนไลน์มาใช้กับร้านค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีสไตล์ตามสโลแกนของโครงการนี้ที่ว่า “We could change their waiting time to shopping time.” จริงๆ
ที่มา:?Digital Buzz