นอกจากทูน่ากระป๋อง ชา และมะเขือเทศ วันนี้แบรนด์ค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ของอังกฤษอย่าง Tesco หันมาเปิดตัวแท็บเล็ตของตัวเองอย่างเป็นทางการ เหตุผลของความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะทำให้ชาวไอทีต้องมองตลาดดิจิตอลในมุมใหม่
Rory Cellan-Jones จากสำนัก BBC วิเคราะห์ว่าการแจ้งเกิด Tesco Hudl ระบบปฏิบัติการ Android รุ่น Jelly Bean ของเทสโก้จะมีนัยสำคัญต่อภาพรวมตลาด โดยสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนมากในขณะนี้คือเทสโก้เอาจริงเอาจังกับการเปิดตลาดแท็บเล็ต ซึ่งความพยายามถัดไปของเทสโก้เชื่อว่าจะเป็นการจัดเต็มสเปกเครื่องที่แรงกว่าเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ดีขึ้น (แม้ว่าจะไม่ได้เปิดตลาดทุกประเทศทั่วโลกก็ตาม)
Tesco Hudl มาพร้อมหน่วยประมวลผล 1.5 GHz หน้าจอขนาด 7 นิ้วความละเอียด HD ความจุข้อมูลในเครื่อง 16GB สามารถขยายได้ถึง 48GB คอนเทนต์ต่างๆของเทสโก้จะซ่อนอยู่ใต้ปุ่มรูปตัว “T” ที่ติดตั้งไว้ด้านล่างซ้ายของจอ ซึ่งเมื่อผู้ใช้แตะที่ปุ่มนี้จะพบบริการออนไลน์ช้อปปิ้ง และบริการคอนเทนต์ออนไลน์ของเทสโก้อย่าง Blinkbox เท่ากับเป็นการเดินตามรอยของ Amazon ที่ลงมือทำให้อุปกรณ์ของตัวเองราคาประหยัดเพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกาสเข้าถึงบริการคอนเทนต์ออนไลน์ของบริษัทในระยะยาว
ถามว่าตลาดใดที่ Tesco Hudl จะสามารถลงแข่งได้อย่างดุเดือด? สำนัก BBC วิเคราะห์ว่าตลาดแท็บเล็ตในอังกฤษนั้นมีช่องว่างมากพอ เพราะจาก Google Nexus 7 ถึงแท็บเล็ต Amazon Kindle Fire นั้นมีช่วงราคาตั้งแต่ 100-200 ปอนด์ ดังนั้น Tesco Hudl ที่มีราคา 119 ปอนด์หรือประมาณ 6,000 บาทจึงสามารถแข่งขันได้ดีในตลาดนี้
อีกสิ่งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเปิดตลาดของ Tesco Hudl คือวิถีของแท็บเล็ตที่จะกลายเป็นอุปกรณ์ประจำวัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเพียง 3 ปีให้หลังจากที่ Apple เปิดตัว iPad และเริ่มต้นปฏิวัติวงการอุปกรณ์ไอทีพกพาด้วยแท็บเล็ต ทั้งหมดนี้ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่าแท็บเล็ตจะมียอดจำหน่ายมากกว่าคอมพิวเตอร์พีซีในปลายปีนี้
สำหรับ Tesco Hudl มีกำหนดเริ่มจำหน่ายทั้งออนไลน์และในร้านสาขาของเทสโก้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23 กันยายนนี้ กลุ่มเป้าหมายของ Tesco Hudl คือครอบครัวและเด็ก โดยเทสโก้เชื่อว่า Tesco Hudl ถูกออกแบบมาเพื่อครอบครัวอย่างแท้จริงอย่างที่ไม่มีในท้องตลาดขณะนี้
แต่ถ้าถามความเห็นของพวกเราคนไทยตอนนี้ นี่เป็นแนวคิดที่ออกจะสุดขั้วมากๆ และเสี่ยงไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะการซื้อของชำผ่านอินเทอร์เน็ตยังเป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับบ้านเรา แต่ถ้าลงเทสโก้ทำถึงขนาดนี้แสดงว่าเทสโก้ต้องการที่จะยึดหัวหาดการเป็นเจ้าแห่งการค้าปลีกบนโลกออนไลน์ให้ได้ในวันที่ตลาดยังไม่ใหญ่มากเกินไป จริงๆ บ้านเราเองก็มีการค้าปลีกของชำออนไลน์แล้วเช่นกัน แถมกำลังแข่งกันอย่างดุเดือดด้วย ใครยังไม่ได้ลองก็ลองได้นะครับ
ที่มา: BBC