ตลาดคอนเทนต์ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย มีอัตราการเติบโตต่อปีเฉลี่ย 20-30% และเนื่องจากพฤติกรรมใช้เวลาในโลกออนไลน์ เฉลี่ยอยู่ที่ 7 ชั่วโมง 25 นาทีต่อวัน ถือว่าสูงติดอันดับโลก และการใช้งานโซเชียลมีเดียที่สูงถึง 71.5% มากกว่าผู้ใช้งานทั่วโลกที่มีเพียง 63.9% (อ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยของ Global WebIndex เดือนกุมภาพันธ์ 2025) สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยปรับเปลี่ยนมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์กันมากขึ้น
คุณสุวิตา จรัญวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Tellscore เผยว่า แบรนด์ยังคงเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์เป็นเครื่องมือสื่อสารทางการตลาดเป็นหลัก ส่งผลให้ในปี 2024 ที่ผ่านมา ตลาดคอนเทนต์ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ในไทย มีการประมาณการณ์มูลค่าไว้สูงถึง 45,000 ล้านบาท
ปัจจุบันมี Megatrends (แรงผลักดันขนาดใหญ่) ที่ส่งผลต่อการผลิตเนื้อหาและส่งผลกระทบต่ออนาคตวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่น่าสนใจ 4 ประเด็น ประกอบด้วย
- เทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็น โลกเสมือนหรือ AI ได้เปิดโอกาสให้คอนเทนต์ครีเอเตอร์ขยายขีดความสามารถในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ อย่างไรก็ตาม ครีเอเตอร์ควรต้องคำนึงถึงขอบจำกัด ลิขสิทธิ์และข้อมูลที่ถูกต้องของเนื้อหาที่นำเสนอ
- คุณภาพของสื่อ แพลตฟอร์มและภาครัฐพยายามเข้ามาควบคุมและกำกับดูแลมากขึ้นจากปัญหาเฟคนิวส์หรือการสร้างสื่อที่นำเสนอข้อมูลเท็จ รวมทั้งสื่อที่ผิดลิขสิทธิ์
- Creator as Mainstream Media ปัจจุบันผู้บริโภคเชื่อใจและอยากฟังความคิดเห็นของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ทำให้คอนเทนต์ครีเอเตอร์มีส่วนร่วมในสื่อกระแสหลักมากขึ้น
- ค่านิยมในสังคม ครีเอเตอร์สามารถสร้างสรรค์สื่อที่มีประโยชน์ให้กับสังคม สิ่งแวดล้อม และช่วยให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
ดร. เจนนิเฟอร์ ชวโนวานิช ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต (TIMS) กล่าวเสริมว่า อนาคตของวงการจะดีหรือไม่นั้น ขึ้นกับปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น
- ความก้าวหน้าและพลวัตทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยี (Technological Advancement)
- การกํากับดูแลดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform Governance)
- การคุ้มครองกํากับดูแลอุตสาหกรรมคอนเทนต์ครีเอเตอร์ (Content Creator Industry Governance)
- การสร้างรายได้และความสามารถในการปรับตัวทางธุรกิจของครีเอเตอร์ (Monetization and Business Opportunities)
- ค่านิยมและพฤติกรรมในการรับชมเนื้อหาของผู้คน (Values in Content Consumption)
- ศักยภาพทางวิชาชีพ ความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่และความสร้างสรรค์ของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ (Content Creators’ Skills and Creativity)
ซึ่งเกิดจากการขับเคลื่อนร่วมกันของทุกภาคส่วนในวงการ ครีเอเตอร์ต้องเรียนรู้ เตรียมตัว และปรับตัวอยู่เสมอ
คุณวิพัตรา โตเต็มโชคชัยการ นักวิจัยด้านการคาดการณ์อนาคตอาวุโส FutureTales LAB by MQDC แนะสิ่งที่จะทำให้ครีเอเตอร์ประสบความสำเร็จและสามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว คือ ความจริงใจและการคำนึงถึงความรู้สึกของผู้เสพสื่อ งานวิจัยจำนวนมากระบุว่าการสร้างสื่อที่เน้นความไวรัลหรือดึงดูดความสนใจอาจช่วยให้ประสบความสำเร็จในระยะสั้น แต่สิ่งที่คนดูต้องการคือความจริงใจ ซึ่งจะนำไปสู่การมีส่วนร่วมระหว่างครีเอเตอร์กับคนดู (Engagement) และหากครีเอเตอร์สามารถนำเสนอตัวตนและเอกลักษณ์ด้วยความจริงใจได้ ก็จะทำให้เกิดความแตกต่างโดดเด่นและสามารถมีจุดยืนในวงการได้
คอนเทนต์เกม ก็เป็นอีกหนึ่งประเภทเนื้อหาที่มีการเติบโต
สิ่งสำคัญคือการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพและโดดเด่นแตกต่างจากคนอื่นๆ เพื่อช่วยเติมช่องว่างให้ชีวิตคนฟัง การทำเพลงให้ประสบความสำเร็จจึงไม่ได้มีสูตรสำเร็จที่ตายตัวแต่ต้องทำให้ดีที่สุดและโดนใจคนฟัง ต้องเริ่มจากความชอบและความรักในสิ่งที่ทำ ตั้งใจทำให้เต็มที่ รู้ให้ลึกในสิ่งที่จะทำ โดยต้องไม่ลืมที่จะมองเพื่อนบ้าน มองโลกปัจจุบัน รวมถึงกระแสความสนใจของคนด้วย
โลกอินเตอร์เน็ตอาจจะทำให้การแข่งขันในวงการเพลงมีความเข้มข้นและดุเดือด แต่ก็มีข้อดีที่ทำให้เพลงที่อาจจะเก่าแล้ว สามารถกลับมาฮิตใหม่ได้อยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับจังหวะและความสนใจของผู้ฟังในช่วงเวลานั้นๆ เพราะเกมคือซอฟต์แวร์แห่งความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถเข้าถึงจิตใจของผู้ใช้งานทั้งโลกได้
คุณเนนิน อนันต์บัญชาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Extend Interactive บริษัทพัฒนาเกมสัญชาติไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีคนไทยที่เล่นเกมมากกว่า 32 ล้านคน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี
ในปี 2023 อุตสาหกรรมเกมมีมูลค่าทางการตลาดสูงถึง 34,556 ล้านบาท หรือคิดเป็น 78% ของอุตสาหกรรม Digital Content โดยรวม แสดงให้เห็นว่าตลาดเกมในประเทศไทยมีความแข็งแรง และมีแนวโน้มการเติบโตอยู่เสมอ
โดยเกมแนวสยองขวัญ (Horror) เอาตัวรอด (Survival) เกมอินดี้ รวมถึงซอฟพาวเวอร์ของไทยอย่างเกมแนว Y Love Story ถือได้ว่าเป็นแนวเกมที่คนไทยสามารถทำได้ดี และเป็นโอกาสของผู้พัฒนาเกมไทย ดังนั้น เชื่อว่าในอีก 10 ข้างหน้า วงการเกมในไทยก็จะยิ่งเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการสร้างสรรค์เกมที่มีความแตกต่าง และมีความคิดสร้างสรรค์ ผสานกับการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้
ดังนั้น หากครีเอเตอร์สามารถนำความเป็นไทยมาผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ และเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ลงไป ก็จะกลายเป็นผลงานที่มีความแปลกใหม่ ไม่มีเหมือนใคร หรือจะเรียกได้ว่าเป็น Original Thai Content ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสามารถต่อยอดและไปต่อได้อีกไกล