แม้แต่คนที่คุณคิดว่าขยันที่สุดก็อาจมีบางส่วนในตัวเขาที่เป็นนักผัดวันประกันพรุ่ง ทำไมน่ะเหรอ? เพราะมันเป็นนิสัยที่ทุกคนมี และมันเกิดขึ้นด้วยหลายๆ สาเหตุ ไม่ใช่ความขี้เกียจแต่เพียงอย่างเดียว
มันอาจจะฟังดูเหมือนข้อแก้ตัวไปสักนิด แต่จริงๆ แล้วเราไม่ควรเหมารวมว่านักผัดวันประกันพรุ่งเป็นพวกขี้เกียจเหมือนกันหมด เพราะความจริงแล้วมีถึง 5 ประเภทด้วยกัน แบ่งตามสาเหตุของการผัดวันประกันพรุ่ง ดังนี้
1. พวกคลั่งความสมบูรณ์แบบ
คนกลุ่มนี้จะไม่ลงมือทำเพราะพยายามหลีกเลี่ยงความผิดพลาด หรือการถูกตัดสิน พวกเขาอาจจะใช้เวลานานกว่าปกติสำหรับงานที่เรามองว่าธรรมดาๆ และคนกลุ่มนี้อาจจะไม่สามารถควบคุมเวลาในการทำงานได้อย่างเหมาะสม ไปจนถึงไม่ยอมแบ่งงานให้ใครทำ เพราะกลัวว่ามันจะออกมาไม่สมบูรณ์แบบ แล้วก็ต้องมาเร่งให้เสร็จในนาทีสุดท้าย
2. พวกกลัวถูกเปิดโปง
นักผัดวันประกันพรุ่งที่ประเมินตัวเองต่ำเกินความเป็นจริงจะมีลักษณะแบบนี้ พวกเขาไม่กล้าลงมือทำเพียงเพราะกลัวคนอื่นจะรู้ว่าเขาไม่ได้เก่งจริง ลึกๆ แล้วมันจะเชื่อมโยงกับอาการกลัวความล้มเหลว
คุณอาจจะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนแบบนี้ หรือมีอาการแบบนี้ จนกระทั่งได้อยู่ท่ามกลางกลุ่มคนที่ไม่เป็นมิตร หรือคอมเมนต์งานแบบไร้มนุษยธรรมนั่นแหละ มันจะเป็นตัวกดความมั่นใจให้ต่ำลงมาจนถึงขั้นนี้
3. พวกตรงไปตรงมา
คนประเภทนี้น่าจะดูมีเหตุมีผลมากที่สุดแล้วล่ะ คุณไม่ลงมือทำ เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่น่าทำ หรือไม่อยากทำ ง่ายๆ แบบนั้นแหละ
ถ้าคุณเกลียดสิ่งที่กำลังทำอยู่ หรือพบว่ามันขัดกับใจของตัวเองมากๆ มันก็ยากที่จะเริ่มลงมือทำ คุณก็เลยกลายเป็นนักผัดวันประกันพรุ่งไงล่ะ
4. พวกมีงานล้นมือ
บางทีมันก็มีอะไรให้คุณต้องทำมากจนเกินไป ว่ามั้ย? และปริมาณของงานที่คุณเห็นอยู่ตรงหน้า ก็ทำให้คุณไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง ท้ายที่สุดคุณก็ไม่ได้ทำอะไรเลย
5. พวกมีโชค
มันยังมีกลุ่มคนที่เรียนรู้วิธีผัดวันประกันพรุ่งโดยไม่ต้องกลัวอะไร พวกเขาอาจจะเชื่อว่าตัวเองสามารถทำได้ดีภายใต้แรงกดดัน ดังนั้น พวกเขาก็เลยจะไม่ทำอะไรจนกว่าหลังจะติดกำแพง
ยิ่งถ้าในอดีต การกระทำแบบนี้ไม่ส่งผลเสียตามมา พวกเขาก็จะยิ่งเรียนรู้ว่ามันคือรางวัล และมีแนวโน้มว่าจะทำต่อไปเรื่อยๆ และจริงๆ แล้วพวกเขาก็แค่โชคดีที่ยังไม่เจอเหตุการณ์คอขาดบาดตายเป็นบทเรียนเท่านั้นเอง
ลองนึกดูดีๆ ว่าตัวคุณเองเป็นนักผัดวันประกันพรุ่งเพราะอะไร ถ้ารู้แล้วก็อย่าลืมหาทางแก้ไขด้วยนะ ถึงจะไม่ได้มาจากความขี้เกียจซะทีเดียว แต่ผลลัพธ์ของมันก็ทำให้ชีวิตเรายากขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น
ที่มา : Inc