จากการเปิดตัว YouTube TV ที่สร้างเสียงฮือฮาได้อย่างมากเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ชื่อของ YouTube TV ได้กลายเป็นทั้งความหวังและความกังวลของหลายฝ่าย ว่าจะทำให้สถานการณ์การแข่งขันของสื่อเคเบิลในยุคดิจิทัลเข้มข้นมากขึ้น
โดยการเปิดตัวบริการ YouTube TV นั้นเป็นการที่ YouTube จับมือกับผู้ผลิตคอนเทนต์ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกากว่า 40 ช่อง ยกตัวอย่างเช่น ABC, CBS, FOX, NBC, ESPN ให้นำคอนเทนต์เหล่านั้นมาสตรีมมิ่งให้ผู้บริโภครับชมกันสดๆ แบบไม่ต้องพึ่งสายเคเบิล หรือสัญญาณดาวเทียม และเก็บค่าบริการรายเดือน โดยผู้บริโภคมีสิทธิ์จะยกเลิกบริการเมื่อไรก็ได้ นอกจากนั้นยังให้พื้นที่บนคลาวด์แบบไม่จำกัดสำหรับบันทึกรายการโปรดไว้ชมภายหลังด้วย แต่คลิปที่บันทึกไว้จะลบตัวเองโดยอัตโนมัติหากเวลาผ่านไป 9 เดือน
ซึ่งการมาถึงของ YouTube Tv นี้จะเผชิญกับความท้าทายหรืออุปสรรคใดบ้างนั้น Peter Csathy จาก CreaTV Media ได้ให้ความเห็นถึงเรื่องดังกล่าวในเชิงบวกว่า ดูจากรูปการณ์แล้ว YouTube น่าจะต้องการเป็น Single Platform สำหรับคอนเทนต์ด้านวิดีโอ แต่หาก YouTube TV เรียกเก็บค่าบริการเพิ่ม จะทำให้ YouTube มีคู่แข่งเพิ่มขึ้น ทั้ง Netflix, Amazon, Hulu เลยทีเดียว
ความท้าทายของ YouTube TV หากจะเก็บเงินค่าบริการ จึงอยู่ที่การหาจุดที่แตกต่างจากค่ายอื่นๆ ให้ได้นั่นเอง
อีกหนึ่งความท้าทายของการเปิดตัว YouTube TV ก็คือ Mindset ของผู้บริโภคที่ฝังไปแล้วว่า YouTube คือของฟรี ดังนั้นโมเดลธุรกิจของ YouTube ที่จะเก็บค่าบริการรายเดือนจากผู้บริโภคจึงอาจไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร
อย่างไรก็ดี ตัวเลขการรับชมสื่อเคเบิลทีวีของสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ไม่มาก แต่ในท้ายที่สุด นักวิเคราะห์ก็คาดการณ์กันว่า สื่อแบบ Streaming จะเข้ามาแทนที่สื่อเคเบิลทีวีอย่างแน่นอน ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นภายในเจเนอเรชั่นนี้ หรืออย่างช้าก็ภายในเจเนอเรชั่นหน้า โดยผู้บริโภคในยุคหน้าจะไม่ยินดีที่จะจ่ายค่าบริการในการรับชมให้กับผู้ให้บริการเคเบิล หรือดาวเทียมอีกต่อไป แต่จะเปลี่ยนมาสู่ผู้ให้บริการบนระบบสตรีมมิ่งผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฟนหรือแทบเล็ตแทนนั่นเอง
ที่มา: Realscreen