กลางปี 2010 ผมเดินทางจากสิงคโปร์กลับมาทำงานอยู่ที่องค์กรใหญ่แห่งหนึ่งในไทย ยุคนั้นจำได้ว่าชอบอ่าน Blognone ของคุณมาร์ค Mk และคุณลิ่ว Lewcpe มาก เพราะอุดมไปด้วยความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ แต่หลายครั้งก็รู้สึกขัดใจที่ Blognone อาจไม่ค่อยได้นำเสนอแง่มุมธุรกิจและการตลาดในแบบที่ผมอยากอ่านสักเท่าไหร่ พอมันไม่มีเรื่องที่ผมอยากอ่าน ทำให้ผมคิดได้ว่าเราน่าจะทำเว็บข่าวในแบบที่เราอยากอ่าน แต่การจะเริ่มต้นมันง่ายซะที่ไหน ทำไมเราไม่หาคนช่วย…
ณ วันนั้นผมเลยเอาเรื่องไปนำเสนอผู้ใหญ่ในองค์กรที่ผมทำงานอยู่ว่า ผมอยากจะสร้างเว็บข่าวสายธุรกิจกับเทคโนโลยีสักเว็บที่ดีมีคุณภาพ นำเสนอเรื่องธุรกิจดิจิทัลที่ดีแบบที่เมืองนอกมีกัน แต่ผู้ใหญ่ในองค์กรไม่เชื่อว่าผมจะทำได้ ผมพยายามโน้มน้าวให้ผู้ใหญ่ลงทุนกับพวกเรา แต่ก็ไม่มีใครเห็นด้วย วันนั้นผมเลยคิดว่าถ้าเราอยากทำจริงๆ ก็ทำเองเลยดีกว่า การเป็นเจ้าของสื่อยุคนี้มันเริ่มต้นได้ง่ายกว่าเดิม แต่ทำคนเดียวก็ไม่ไหว ผมเลยมองหาคนเก่งๆ รอบตัวที่มี passion ในเรื่องธุรกิจดิจิทัลที่ทำงานอยู่ในที่เดียวกัน ตอนนั้นมี @chyutopia @mimee @tuirung และจากนั้นเราก็ชวนคนอื่นๆ มาร่วมขบวนการอีกเช่น @nupink @charathbank
ต้องย้ำอีกทีว่าหากขาดเพื่อนๆ กลุ่มนี้ thumbsup จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย เพราะ thumbsup เกิดจากการ brainstorm ของ 6 คนนี้ รวมถึงทีมงานเก่งๆ อีกหลายคนในยุคถัดมา พวกเราปรับเปลี่ยนมาตามกาลเวลา ผมจำได้ว่าพวกเราเขียนกันแบบบ้าคลั่ง อัปเดตเนื้อหากันแบบทุกลมหายใจ จำได้ว่าเขียนกันดึกๆ ดื่นๆ ตื่นมาตีสี่ตีห้านั่งเขียน ก็ยังสนุก มันทำให้เรา up-to-date กับทุกเรื่องราวดิจิทัล วันเวลานั้นมันสนุกมากจริงๆ นั่นคือจุดเริ่มต้นของ thumbsup จนถึงขั้นคุณ @khajochi เอาไปเขียนถึงใน Blognone และมีเพื่อนพี่น้องสื่อมวลชนเขียนและพูดถึงพวกเรา อยู่บ่อยๆ
การเขียนเรื่องราวต่างๆ อย่างเดียวยังไม่พอ ผ่านไปปีนึง พวกเราพยายามทำสิ่งที่ใหญ่กว่าตัวเราขึ้นไปอีก เราพยายามนัดเจอคนอ่านของเรามากขึ้น เพราะเราอยากเจอหน้าเจอตาของคนที่อ่านและ comment เราทุกๆ วัน เราจัด Event เล็กๆ สำหรับคนสาย tech startup ขึ้นชื่อ start it up, power it up ท่ามกลางการลุ้นของคนที่มาสังเกตุการณ์ทั้งบริษัทใหญ่ๆ ในบ้านเรา สื่อสาย startup จากต่างประเทศ
ผ่านไป 3 ปี พวกเราอยากทำก้าวที่ใหญ่ขึ้นจึงจัดสัมมนาขนาดใหญ่ระดับ 1,500 คนขึ้นชื่อว่า Spark Conference ท่ามกลางการสนับสนุนของเพื่อนๆ ในวงการเช่นเคย เราจัดกันอยู่ 3 ครั้งคือปี 2014, 2015, 2016 หลังจากนั้นพวกเราก็ไม่ได้ทำ Event ขนาดใหญ่อีกเลย แต่เราก็ยังคงขับเคลื่อนวงการดิจิทัลด้วยความรู้ เราไปดึงเอา Econsultancy มาทำหลักสูตรสอนการตลาดดิจิทัลในบ้านเราจนได้รับความนิยมจากนักการตลาดหลายๆ ท่านจนหลักสูตรมีคนเรียนเต็มแทบทุกคลาสในเวลานั้น สลับกับการที่เราก็ยังคงจัดงานขนาดเล็กอย่าง Digital Matters อีเวนท์สาย Digital Marketing ที่คนการตลาดยังคงอยากร่วมมาอยู่เรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้
จนเมื่อปีต้นปี 2019 “The Zero Publishing” บริษัทในเครือ Rabbit Digital Group นำโดย ขจร เจียรนัยพานิชย์ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ @khajochi ได้เข้ามาลงทุนใน thumbsup โดยพวกเรากองบรรณาธิการ thumbsup รุ่นก่อตั้งก็ยังคงเข้ามาร่วมวางทิศทางในการทำงานร่วมกับกองบรรณาธิการยุคปัจจุบัน ซึ่งการรวมตัวกันครั้งนี้จะเป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดชุมชนของ “นักเรียนการตลาดตลอดชีวิต” ที่จะอัปเดตข่าวสาร, บทความ, บทสัมภาษณ์ ตลอดจน event ที่มีประโยชน์สูงสุดต่อนักการตลาดไทยต่อไป
จากวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการของพวกเราเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2011 นับถึงวันนี้ เป็นเวลา 10 ปีเต็ม เราอัปเดตบทความมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 10,000 บทความ จนมี thumbsupers ให้เกียรติเข้าอ่านบทความของพวกเราทั้งหมดมากกว่า 21 ล้านครั้ง ปัจจุบันมีคนติดตามพวกเราเดือนละประมาณ 200,000 คน ท้ายสุดต้องขอขอบคุณกองบรรณาธิการและทีมงานปัจจุบันของ thumbsup ด้วยนะครับ ที่นำโดย ขจร เจียรนัยพานิชย์ (เอ็ม), ณัฏฐ์ธยาน์ สุทธิเจริญ (บี), ศรัณย์ โรจนโสทร (สาย), วิธวินท์ อัศวนิเวศน์ (เจฟ), และกองบรรณาธิการรุ่นก่อตั้ง @charathbank @mimee @tuirung (และ @jakrapong ตัวผมเอง) ที่ยังอยู่ให้คำปรึกษาด้วยกันถึงปัจจุบัน และกองบรรณาธิการรุ่นก่อนหน้านี้อย่าง @chyutopia @nupink @superjubu และอีกหลายๆ ท่าน ที่ยังคงแนะนำให้ข้อคิดเห็นดีๆ ที่มีประโยชน์ให้กับนักการตลาดในบ้านเราตลอดมา
ขอบคุณ thumbsupers ที่อยู่ด้วยกันเสมอมา 10 ปีแล้วนะ และต่อๆ ไปครับ