เปิดตัวทีมงานที่มาดูแล Tiktok for business อย่างเป็นทางการในไทยแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทีม Tiktok จะใช้บริการเอเจนซี่ในการดีลกับลูกค้าแบรนด์รายใหญ่ที่ต้องการลงโฆษณา และเพื่อไม่ให้เป็นการทับซ้อนกัน ก็ได้จัดทีมใหม่ขึ้นมา เพื่อช่วยดูแลลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอีที่มีกำลังเงินไม่มาก แต่ปริมาณในการพร้อมจ่ายโฆษณาบนแพลตฟอร์มมีจำนวนเยอะมาก พร้อมทั้งเครื่องมือสำหรับช่วยให้เอสเอ็มอีบริหารจัดการโฆษณาได้เองตามความต้องการ
สิรินิธิ์ วิรยศิริ Head of Business Marketing Thailand ของ Tiktok ประเทศไทย เล่าว่า ด้วยจุดเด่นของ TikTok ในการเป็นแพลตฟอร์มแห่งการสร้างสรรค์ที่ให้ผู้คนได้มาร่วมแบ่งปันคอนเทนต์วิดีโอสั้น สร้างยอดดาวน์โหลดทั่วโลกมากกว่า 2 พันล้านครั้ง ภายในเวลาเพียงไม่นานหลังเปิดบริการ และการขยายฐานผู้ใช้จากกลุ่มคนรุ่นใหม่ไปสู่กลุ่มคนทำงาน ครอบคลุมไปถึงทุกกลุ่มอายุ
ดังนั้น การเปิดตัวแพลตฟอร์ม การตลาดดิจิทัล “TikTok For Business” จะเข้ามาช่วยแบรนด์และธุรกิจทุกขนาดในตลาดให้พร้อมปรับใช้เป็นกลยุทธ์ออนไลน์ให้แข็งแรงขึ้น
ในปี 2563 นี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินโฆษณาในสื่อออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นถึง 2.03 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 12% จากปีที่ผ่านมา (ข้อมูลจาก MAT) โดยมูลค่าการโฆษณาในสื่อออนไลน์จะเป็นเซ็กเมนต์เดียว ที่มีการเติบโตท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ทุกธุรกิจต้องรัดเข็มขัดและรัดกุมกับการใช้งบประมาณการตลาดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงทำให้ความคาดหวังของทุกธุรกิจในการทำตลาดดิจิทัล ไม่เป็นเพียงแค่การสร้างการรับรู้แต่ยังมองไปถึงการสร้างยอดขายให้กับธุรกิจ
จากภาพรวมการใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ตของคนไทยพบว่า มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือมากถึง 52 ล้านราย เฉลี่ยการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถืออยู่ที่ 4.57 ชั่วโมงต่อวัน โดยในคนกลุ่มนี้เป็นการรับชมคอนเทนต์ประเภทวิดีโอสูงถึง 99%
เมื่อเจาะลึกถึงพฤติกรรมการรับชมวิดีโอพบว่า คนกลุ่มนี้รับชมวิดีโอทุกวันอยู่ที่ 55% และรับชมทุกสัปดาห์ 78% ซึ่งพวกเขาพร้อมที่จะรับชมคอนเทนต์เกี่ยวกับสินค้าและบริการก่อนตัดสินใจซื้อสินค้ามากถึง 72%
ด้วยพฤติกรรมการรับชมที่สูงขึ้นนี้ทำให้นักการตลาดและแบรนด์ให้ความสนใจในการใช้แพลตฟอร์ม Tiktok เพื่อสร้างการรับรู้ (Awareness) การมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค (Engagement) พร้อมต่อยอดไปถึงการพิจารณาเลือกซื้อ (Consideration) สู่การตัดสินใจซื้อ (Conversion) ซึ่ง Tiktok for Business ถือว่าเป็น Full-Funnel Marketing Solution สำหรับนักการตลาดอีกช่องทางหนึ่ง
เทรนด์ความนิยมของคอนเทนต์วิดีโอสั้นถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “TikTok For Business” สามารถสร้างความสนใจให้กับบรรดานักการตลาดและนักโฆษณา เนื่องจากคอนเทนต์วิดีโอสั้นมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก กับผู้บริโภคด้วยประสิทธิภาพการถ่ายทอดเนื้อหาของแบรนด์และสินค้าได้อย่างน่าสนใจ กระชับ และมีประสิทธิภาพ
ความพิเศษของแพลตฟอร์ม TikTok ที่ถือเป็นพื้นที่ของการสร้างการมีส่วนร่วม โดยบน TikTok ผู้ใช้จะไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้รับชมคอนเทนต์แต่จะเข้ามาสร้างสรรค์คอนเทนต์ ซึ่งจะนำไปสู่การมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายของแบรนด์ที่ไม่ได้ต้องการเพียงแค่การรับรู้แต่ยังต้องการให้ผู้คนเกิดการจดจำและมีส่วนร่วมกับแบรนด์ รูปแบบการโฆษณาที่ถูกจัดไว้ตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ของแบรนด์ มีดังนี้
ประเภทของ Ad ที่ให้บริการในไทยคือ
- Brand Takeover: รูปแบบโฆษณาในตำแหน่งแรกก่อนเข้าหน้า Feed ที่สามารถสร้างการเข้าถึง (Reach) ได้สูงสุด 100%
- Top View: รูปแบบโฆษณาในตำแหน่งแรกในหน้า Feed ที่สามารถสร้างได้ตั้งแต่การเข้าถึง (Reach), จำนวนคนที่เข้ามาบนแพลตฟอร์ม (Traffic) การพิจารณาเลือกซื้อ (Consideration) ไปสู่การตัดสินใจซื้อ (Conversion) ซึ่งจะสามารถสร้างการแสดงผลทั้งการมองเห็น (View) และจำนวนครั้งที่แสดงโฆษณา (Impression) เป็นจำนวนมากหลายล้านครั้งต่อวัน
- In-Feed Ads: รูปแบบโฆษณาที่จะปรากฏขึ้นระหว่างการแสดงคอนเทนต์ในหน้า Feed ซึ่งโฆษณารูปแบบนี้ยังสามารถทำได้ผ่าน แพลตฟอร์ม Self-Serve สำหรับ SME โดยจะแสดงผลอยู่ทุกๆ 4 คอนเทนต์เนื้อหาทั่วไป และจะฟีดโฆษณาใหม่ไม่ซ้ำกัน เพื่อให้โฆษณามีโอกาสเข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลายขึ้น
- Hashtag Challenge: รูปแบบโฆษณาในลักษณะของการจัดแคมเปญ เพื่อชักชวนให้คนเข้ามาร่วมกิจกรรม สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ (Engagement) ได้อย่างมหาศาลในรูปแบบ User-Generated Content หรือคอนเทนต์ที่ถูกสร้างขึ้นจากผู้ใช้งาน
- Branded Effect: รูปแบบโฆษณาที่แบรนด์สามารถเข้ามาสร้างสรรค์ Effect ต่างๆ ทั้งภาพและเสียง เพื่อให้คนสามารถเลือกใช้ประกอบวิดีโอ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการจดจำและปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ได้อย่างลึกซึ้งมีประสิทธิภาพ
ด้วยความหลากหลายของรูปแบบโฆษณาบน TikTok และความพร้อมของแพลตฟอร์ม ที่มีการขยายฐานไปสู่กลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลายมากขึ้น โดยในวันนี้เราพบว่า กลุ่มผู้ใช้ TikTok ในประเทศไทยเป็นกลุ่มอายุ 16 – 34 ปี คิดเป็นสัดส่วน 60% และมากกว่า 80% เป็นกลุ่มนักศึกษาและคนทำงานรุ่นใหม่
ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและกำลังเป็นที่จับตาของแบรนด์และนักการตลาดในปัจจุบัน จึงส่งผลให้ TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มการตลาดแห่งยุคที่ตอบโจทย์เทรนด์การตลาดรูปแบบใหม่ทั้ง Video Marketing, Challenge Marketing, Hashtag Marketing และ Influencer Marketing จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไม TikTok ถึงเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมและสร้างความสำเร็จให้กับแบรนด์และธุรกิจในทุกขนาดทั้งในระดับโลกจนมาถึงประเทศไทย
ส่วนนักการตลาดที่ต้องการสร้างชิ้นงานโฆษณาผ่านอินฟลูเอนเซอร์นั้น ทาง TikTok มีข้อมูลเกี่ยวกับอินฟลูเอนเซอร์ทุกคน ซึ่งแบรนด์สามารถติดต่อเข้ามาเพื่อขอข้อมูลหรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้แบบไม่เสียค่าบริการ
เจาะตลาดเอสเอ็มอีจริงจัง
ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วยความสามารถในการสร้างรายได้กว่า 2.8 ล้านล้านบาทในครึ่งปีแรกของปี 2563 หรือคิดเป็น 34% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์รวมในประเทศไทย (GDP) ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า SMEs ต้องเผชิญกับข้อจำกัดทางธุรกิจในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดด้านทรัพยากร งบประมาณ และความรู้ด้านเทคโนโลยี
จตุธน พิทักษ์พงศ์ Head of SMBs Thailand ของ Tiktok ประเทศไทย กล่าวว่า การเปิดตัว “แพลตฟอร์ม Self-Serve” หรือ “แพลตฟอร์มแบบบริการตัวเอง” เพื่อให้ SMEs สามารถเริ่มต้นทำการตลาดบน TikTok ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว พร้อมเครื่องมือในการสร้างสรรค์วิดีโอและโฆษณาอย่างมืออาชีพ ที่มาพร้อมความสามารถในการกำหนดงบประมาณ ที่ยืดหยุ่นได้ และปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา พร้อมวัดผลโฆษณาได้อย่างแม่นยำ
อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าเพิ่มผลลัพธ์ ตอบสนองทุกความต้องการทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่จะช่วยให้ทุกธุรกิจสามารถเข้ามาใช้งานได้อย่างไม่มีข้อจำกัด โดยปัจจุบันมีธุรกิจ SMEs มากมายที่เข้ามาทำการตลาดบน TikTok และสามารถสร้างความสำเร็จทั้งการรับรู้และยอดขายได้อย่างน่าสนใจ
ด้วยปัญหาหลักในการเข้าถึงการตลาดออนไลน์ของกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ได้
- Resources : มีคนช่วยทำงานไม่เพียงพออาจต้องเรียนรู้เอง
- Budget : งบไม่เยอะเท่าธุรกิจขนาดใหญ่ แต่ต้องการ Roi ให้มาก
- Digital Knowledge : ธุรกิจขนาดใหญ่มีแหล่งความรู้มากกว่า แต่ sme กลับไม่มีเครื่องมือช่วยวิเคราะห์และวัดผลมากเท่ากับแบรนด์ขนาดใหญ่
ดังนั้น TikTok for Business จึงมีเครื่องมือสำหรับให้นักการตลาดหน้าใหม่ทำงานได้ง่ายขึ้นด้วยการมีแดชบอร์ดให้นักการตลาดกำหนดกลุ่มเป้าหมาย วางแนวทางการโฆษณาและวิเคราะห์ผล ผ่าน TikTok Ads Manager เพื่อให้ปรับแก้เงื่อนไขต่างๆ ของชิ้นงานโฆษณาได้ง่ายขึ้น รวมทั้งมีระบบ AI ช่วยวิเคราะห์และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เหมาะสมขึ้น และยังส่งออกรายงานมาเป็นไฟล์ excel เพื่อให้สรุปผลวิเคราะห์ได้ง่ายขึ้น หรือหากมีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามผ่านทีมซัพพอร์ตได้อย่างรวดเร็ว หรือคุยผ่าน LINE Official Account
นอกจากนี้ ทาง TikTok ยังมีการจัดงานสัมมนาออกมาเพื่อช่วยให้นักการตลาดเข้าใจในระบบการซื้อโฆษณาและช่วยป้องกันการปั่น (Bidding) คำโฆษณา แฮชแท็ก หรือเวิร์ดดิ้ง รวมถึงมีระบบตรวจสอบชิ้นงานก่อนปล่อยให้ผู้ใช้งานได้เห็นทุกครั้ง จึงเชื่อมั่นได้ว่าชิ้นงานโฆษณาที่แสดงผลในฟีดของผู้ใช้งานนั้น จะไม่เป็นโฆษณาที่ผิดต่อกฏหมาย