เครื่องมือการตลาดสำคัญที่นักการตลาดมักมองข้าม นั่นคือ “Email Marketing” หรือการตลาดผ่านอีเมลซึ่งประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว มีต้นทุนต่ำ และหากมีการตลาดผ่านอีเมลที่ดีจะยิ่งส่งเสริมภาพลักษณ์ เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรได้มากขึ้น
การตลาดผ่านอีเมลทำได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งประประชาสัมพันธ์ อัปเดตข่าวสาร โปรโมชั่น หรือข้อเสนอพิเศษให้กับสมาชิกหรือลูกค้า นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์กับความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการตลาดผ่านอีเมลวันนี้ Thumbsup จะมานำเสนอเคล็ดลับเพิ่มยอดขายด้วยการตลาดผ่านอีเมลที่สามารถนำไปปรับใช้กันได้ทันที!
1.รู้และเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย
ข้อนี้คล้ายกับพื้นฐานการตลาดทั่วไป การส่งอีเมลไปยังสมาชิกหรือกลุ่มเป้าหมายต้องเข้าใจเกี่ยวกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหาเกี่ยวข้องกับผู้รับ และอีเมลจะไม่ถูกเมิน
การแบ่งประเภทอีเมลของสมาชิกเป็นกลุ่มย่อย สามารถช่วยให้การตลาดผ่านอีเมลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น ร้านขายอุปกรณ์กีฬาอาจแบ่งสมาชิกตามประเภทกีฬา เช่น ฟุตบอล, บาสเก็ตบอล, โยคะ เป็นต้น
2.ส่งอีเมลอย่างสม่ำเสมอ
หลายคนอาจกลัวว่าการส่งอีเมลไปยังกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากจะทำให้ขึ้นชื่อว่าเป็น “สแปม” แต่อย่าลืมว่ากลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจ ความเกี่ยวข้องมากพอจะให้ความสนใจกับข้อมูลข่าวสารและอัปเดตอยู่เสมอ
อีเมลสแปมคืออีเมลที่ส่งไปยังกลุ่มคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง ไม่ได้เป็นสมาชิกหรือผู้ที่ไม่อนุญาตให้ธุรกิจส่งอีเมลให้ ดังนั้นหากกลุ่มเป้าหมายยินยอมหมายความว่าพวกเขาพร้อมที่จะรับข้อมูลการตลาดต่างๆ
3.สั้นและกระชับ
ลูกค้าจะคลิกอ่านอีเมลเมื่อหัวข้อน่าสนใจ แต่ลูกค้าจะซื้อสินค้าก็ต่อเมื่อเนื้อหาที่นำเสนอสั้นและกระชับ หากลูกค้าสนใจสินค้าและบริการก็จะเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม และสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
สิ่งที่ต้องคำนึงคือปัจจุบันคนจำนวนมากเข้าถึงอีเมลผ่านโทรศัพท์มือถือ นั่นหมายความว่าจำนวนบรรทัดที่อ่านอีเมลจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหากเขียนในคอมพิวเตอร์ คำนึงเสมอว่าทุกคนมีเวลาจำกัดในการอ่าน ดังนั้นข้อมูลต้องสั้นและกระชับ
4.ทดสอบด้วย A/B testing
หนึ่งในเคล็ดลับการตลาดผ่านอีเมลคือการทดสอบด้วย A/B testing เป็นวิธีทดสอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยการแบ่งอีเมลของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายเป็นหลายๆ กลุ่ม เพื่อหาผลลัพธ์ว่าอีเมลเวอร์ชั่นไหนหรือรูปแบบใดที่มีประสิทธิภาพที่สุด
สามารถวัดผลได้หลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น
- อัตราการเปิดอีเมล
- อัตราการเปิดดูอีเมลแล้วคลิก
- ความเข้าใจต่อข้อมูลที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ ควรทดสอบด้วยกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน เพื่อดูความแตกต่างของผลลัพธ์ระหว่างกลุ่มเป้าหมาย
5.ไม่เขียนแบ่งย่อหน้า
อย่าลืมว่าลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายไม่ได้มีเวลาว่างตลอด และเราไม่ใช่บริษัทเดียวที่ส่งอีเมล ในเมื่อลูกค้าสมัครรับอีเมลแสดงว่าลูกค้ากำลังสนใจสิ่งที่ธุรกิจเสนอให้ ดังนั้นธุรกิจจึงควรใช้ประโยชน์สูงสุดจากอีเมลแต่ละฉบับ
การศึกษาจากต่างประเทศระบุว่าโครงสร้างของอีเมลที่มีพื้นที่สีขาวจะได้รับความสนใจจากผู้อ่านมากกว่า กล่าวคือการแบ่งหัวข้อสั้น เพิ่มหัวข้อย่อย หรือ Bullet point จะเพิ่มโอกาสในการสื่อสารได้มากกว่าการเขียนอีเมลแบบพารากราฟ
สำหรับข้อมูลที่มีรายละเอียดจำนวนมากอาจเพิ่มลิงก์ “อ่านเพิ่มเติม” สำหรับผู้ที่สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม การเขียนเนื้อหาแบบสแกนอ่านได้จะเพิ่มประสบการณ์การอ่านที่ดีสำหรับลูกค้า นำไปสู่การขายที่ดีในระยะยาว
สรุป
การตลาดผ่านอีเมลอาจดูยากในตอนแรก ซึ่งความสำเร็จย่อมไม่เกิดเพียงข้ามคืน แต่การทดลองนำไปใช้ทีละขั้น ปรับปรุงทดลองพัฒนาไปเรื่อยๆ ก็จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
อ้างอิง campaignmonitor, lyfemarketing, searchenginejournal