หลายคนประสบมีปัญหาเรื่องทำงานแล้วรู้สึกเนือยๆ จนเวลาล่วงเลยไปไกลก็ไม่ยอมเสร็จสักที จนหมดวันแล้วก็เพิ่งรู้ตัวว่าทำอะไรเสร็จไปไม่กี่อย่าง เราจึงลองรวบรวบวิถีแห่งความ Productive ในชีวิตประจำวัน ที่จะทำให้คุณกลายเป็นคนทำงานออกมาดีหรือที่เรียกกันว่า Work Smart ไม่ใช่แค่ Work Hard เพียงอย่างเดียว
1. หัดตื่นเช้าๆ
การตื่นเช้าๆ ทำให้เรามีเวลาเยอะขึ้น และอีกอย่างคืองานยากๆ มักเหมาะที่จะจัดการเคลียร์ให้เสร็จในช่วงเช้า เพราะเป็นเวลาที่สมองของเราพร้อมทำเรื่องยากๆ หลังจากนั้นก็ใช้เวลาเรื่องง่ายๆ ในตอนบ่าย อย่างการตอบอีเมล์ ก็เป็นสิ่งที่เหมาะสม
2. ใช้โพสต์อิท
To-Do List แล้วจัดลำดับความสำคัญว่างานไหนเป็นงานด่วน งานไหนไม่ใช่งานด่วน โดยเขียนแต่ละงานกันแยกเป็นสีๆ สีเข้ม = ด่วน สีอ่อน = ด่วนรองลงมา จากนั้นเมื่อทำงานไหนเสร็จแล้วก็ขยำไปทิ้ง ถ้าจบวันแล้วไม่มีโพสต์อิทเหลือก็หมายความว่าคุณทำงานได้ดีจนจัดการกองงานได้หมด
3. ปิด Social Media
ตัวร้ายที่ดูดเวลาคุณ จริงๆ แล้วคุณไม่ต้องอัปเดทข่าวสารตลอดเวลาก็ได้ เพราะใน Social Media มักมีเรื่องน่าสนใจใหม่ๆ ให้ติดตามอยู่เสมอ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เราสมาธิสั้นลงเหมือนกัน เพราะจดจ่อกับสิ่งเดิมๆ ไม่ได้นาน
แต่ไม่ได้หมายความว่าให้งดการเล่น Social Media ไปเลย เพียงแต่จำกัดเวลาการเล่นของคุณ เช่น ตั้งเป้าว่าจะไถฟีด Facebook อัปเดทข่าวสารเป็นเวลา 30 นาทีในช่วงบ่ายสองที่งานเริ่มเบาลง และเล่นอีกครั้งหลังเลิกงาน แทนการหยิบโทรศัพท์มาดูบ่อยๆ ทุกครั้งเมื่อเริ่มเบื่อแทน
4. ใช้หูฟังช่วยตัดเสียงรบกวน
เพื่อนร่วมงาน หรือสภาพแวดล้อมในที่ทำงานเสียงดังเกินไปจนรบกวนสมาธิของคุณใช่ไหม? ปัญหานี้แก้ได้ด้วยสิ่งประดิษฐ์อย่าง ‘หูฟังตัดเสียงรบกวน’ หรือ ‘noise cancelling’ ที่จะทำให้คุณมีสมาธิเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าได้ลองใช้จะรู้สึกเลยว่าได้ดำดิ่งในโลกส่วนตัวที่แสนมีสมาธิ และช่วยให้โฟกัสกับงานข้างหน้าได้เพิ่มขึ้น
ซึ่งหูฟังช่วยตัดเสียงรบกวนในตลาดนั้นมีหลายรุ่นด้วยกัน แต่ที่อยากแนะนำอย่างเช่น B&O PLAY Beoplay H3, Apple AirPods, Bose QC35 เป็นต้น
5. สวดมนต์ และฝึกสมาธิ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการสวดมนต์และนั่งสมาธิได้ผลในการทำงานให้มีประสิทธิภาพขึ้นจริง (ผู้เขียนทดลองด้วยตัวเองติดต่อกันเป็นระยะหนึ่ง) เพราะหลังสวดมนต์แล้วช่วยทำให้จิตใจสงบ ตัดสินใจได้ดีขึ้น หรือถ้ามีเวลาน้อยก็อาจทำสมาธิเพียงวันละ 10 นาทีผ่านการใช้แอปพลิเคชั่นช่วย
ตัวอย่างแอปทำสมาธิ
- Calm
-
Insight Timer
-
Headspace
-
Tide: Sleep. Focus. Meditation
- Stop, Breathe & Think
6. ออกกำลังกาย
ร่างกายพร้อมทำงาน ทำให้จิตใจของคุณดีขึ้นด้วย แน่นอนว่าการพาตัวเองไปออกกำลังนั้นยากเหลือเกินสำหรับคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย หนึ่งวิธีที่ช่วยได้คือการเตรียมชุดออกกำลังกายไว้ปลายเตียง ทำให้พอคุณตื่นขึ้นมาแล้วหยิบชุดพร้อมใส่ออกกำลังกายในตอนเช้าเลย เมื่อใส่ชุดเรียบร้อยแล้วการพาตัวเองไปเดินออกกำลังก็จะเป็นสิ่งที่ง่ายขึ้น
7. นอนให้มีประสิทธิภาพ
การนอนให้มีประสิทธิภาพ หมายถึงการนอนแบบมีคุณภาพ เพราะการนอนเหมือนการได้รัเซ็ทสมองใหม่ให้พร้อมทำงาน ลองสังเกตว่าในวันที่อดนอนจะทำให้คิดและตัดสินใจช้าลงกว่าเดิมมาก
คำแนะนำสำหรับคนนอนยากคืองดใช้อุปกรณ์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอนสัก 1 ชม. หรือใช้เพลงช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น โดยค้นหาใน Youtube ว่า ‘เพลงสำหรับช่วยนอนหลับ’ ก็จะพบเพลย์ลิสต์ดีๆ ที่เหมาะจะเปิดคลอไปตอนนอนจนหลับปุ๋ยไป
8. ทำให้เสร็จเป็นเรื่องๆ
คนเราไม่สามารถทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกันได้ดี ซึ่งบางคนอาจจะเถียงว่าไม่จริงเลย เพราะทำทุกอย่างพร้อมกันได้เสมอ แต่จริงๆ แล้วเราแค่สลับงานไปมาเท่านั้น สุดท้ายจะพบว่าทำแต่ละงานได้ไม่ดีนัก ดังนั้นการทำงานชิ้นใด ควรวางแผนและจัดลำดับความสำคัญให้ดีก่อนและหลัง นั่นถึงจะเรียกว่าเป็นการทำทุกอย่างพร้อมกันได้ดีจริงๆค่ะ
ทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดไม่ลับในการทำงานที่ช่วยให้คุณทำงานได้ดียิ่งขึ้น หลังว่าทุกวันของคุณจะเป็นวันดีๆ ที่มีประสิทธิภาพนะคะ 😀