ครบรอบ 16 ปีแล้ว สำหรับสถาบันอุทยานการเรียนรู้ “TK Park” ที่พร้อมเดินหน้าปรับทิศทางองค์กรครั้งใหญ่ ปรับโฉมรูปแบบการให้บริการใหม่ ปรับการให้บริการให้เข้ากับยุคดิจิทัล ปั้นให้เป็น “ระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้” เพิ่มศักยภาพคนไทยให้มีทักษะในการเรียนรู้ด้วยตนเองตลอดทุกช่วงชีวิต ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งในการสร้างทุนมนุษย์ที่มีความสำคัญ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน
คุณกิตติรัตน์ ปิติพานิช ผู้อำนวยการสถาบันอุทยานการเรียนรู้ เป็นประธานแถลงข่าว ภายใต้แนวคิด “Journey to the Next Chapter” เปิดบริการ TK Park โฉมใหม่ พร้อมนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัย อาทิ MyTK บริการไร้บัตรในรูปแบบแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์ยุคโควิด และ Virtual TK แพลตฟอร์มออนไลน์ที่มาตอบโจทย์การเข้าถึง TK Park ทุกที่ทุกเวลา
การวางยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาองค์กรเพื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว พลิกกลยุทธ์จากห้องสมุดมีชีวิต มุ่งสู่บทบาทใหม่ ในฐานะผู้ริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้แห่งอนาคต (Pioneer of Innovative Future Learning) เน้นตอบโจทย์การสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ให้คนไทย พร้อมปรับทิศทางและภาพลักษณ์องค์กรใหม่ เริ่มตั้งแต่การปรับโครงสร้างการบริหารงานในองค์กรให้มีความกระชับ เพื่อการขับเคลื่อนที่รวดเร็ว การพัฒนาบุคลากร สร้างคุณค่าหลักร่วมกันขององค์กร รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนโลโก้ ให้ดูทันสมัยเข้ากับคนรุ่นใหม่
นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงพื้นที่บริการ ชั้น 8 โดยแบ่งโซนบริการต่างๆ ให้สามารถใช้สอยได้อย่างสะดวก เข้ากับทุกกลุ่มทุกวัยที่มาเข้าใช้บริการ รวมทั้งการปรับปรุงบริการให้สะดวกรวดเร็วโดยการใช้นวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้เข้ามาเสริมทัพ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิก ซึ่งทั้งหมดนี้จะตอบโจทย์เป้าหมายหลักของ TK Park ในการสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ที่ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อเสริมศักยภาพคนไทยให้มีคุณภาพ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง นำมาสู่การพัฒนาสังคมไทย และสร้างสรรค์คุณค่าแก่สังคมโลก
“เป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ ที่เราได้ปรับปรุงพื้นที่ภายในส่วนบริการ ชั้น 8 ด้วยรูปแบบใหม่เข้ากับยุคดิจิทัลเพื่อตอบโจทย์การใช้งานให้สะดวกรวดเร็ว ในแนวคิด Journey to the Next Chapter นำเสนอ 5 จุดเช็คอิน ได้แก่
- Start Your Journey พื้นที่ทางเข้าสู่อุทยานการเรียนรู้ ออกแบบใหม่เพื่อสร้างสรรค์บรรยากาศของการเดินทาง ที่พร้อมพาทุกคนสู่โลกการเรียนรู้ บริการสมัครสมาชิกผ่านแอป MyTK เข้าออกพื้นที่และชำระเงินแบบไร้การสัมผัสด้วยการสแกน QR Code
- Smart Library พบกับจุดให้บริการห้องสมุดในดีไซน์ใหม่ เน้นออกแบบมาเพื่อการบริการตนเอง (Self Service) สมาชิกสามารถยืม คืน ต่ออายุการยืม ผ่านอุปกรณ์อัตโนมัติ ลดการสัมผัสใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
- Toy Library ห้องสมุดของเล่น บริการใหม่ภายในห้องสมุดเด็กของ TK Park ให้เด็กๆ เรียนรู้เสริมทักษะได้มากขึ้นจากการเล่นที่สนุกสนาน ด้วยของเล่นวัสดุธรรมชาติจากความร่วมมือกับ PlanToys บริษัทของเล่นชั้นนำ พร้อมหนังสือในธีมเดียวกัน คัดสรรโดยบรรณารักษ์ TK Park
- Reading Space พื้นที่สำหรับอ่านหนังสือที่ปรับปรุงใหม่ เพิ่มมุมนิตยสารให้กว้างมากขึ้น ปรับขนาดชั้นวางหนังสือให้เข้าถึงได้สะดวกขึ้น เพิ่มที่นั่งการอ่านแบบโต๊ะขนาดใหญ่ พร้อมไฟส่องสว่างประจำโต๊ะ และเสริมที่นั่งอ่านเดี่ยว เพื่อความเป็นส่วนตัว
- Book Wall & TK Cafe มุมใหม่ล่าสุด ที่เรียกได้ว่าเป็น Book Cafe ผสมผสานทั้งหนังสือ เครื่องดื่มและบรรยากาศได้อย่างกลมกล่อมลงตัว นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของบทสนทนา แบบสบายๆ ระหว่างวัน แลกเปลี่ยนกันเรื่องหนังสือ การอ่าน การเรียนรู้
ในส่วนของความร่วมมือกับเครือข่ายและพันธมิตรจากทั่วประเทศ แน่นอนว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่เรายังคงให้ความสำคัญ เพื่อผลักดันให้เกิดการสร้างเครือข่ายเพื่อการเรียนรู้ไปทั่วประเทศ ในปีนี้จะมีอุทยานการเรียนรู้เครือข่ายใหม่เปิดให้บริการเพิ่มอีก 2 แห่ง ได้แก่ อุทยานการเรียนรู้ปราจีนบุรี และอุทยานการเรียนรู้กระบี่ ส่งผลให้ TK Park จะมีเครือข่ายอุทยานการเรียนรู้ รวม 29 แห่ง ใน 22 จังหวัด
นอกเหนือจากอุทยานการเรียนรู้ในระดับจังหวัดแล้ว TK Park ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาคีหลายแห่งพัฒนาแหล่งเรียนรู้ระดับชุมชน รวมกว่า 300 แห่ง เช่น ศูนย์เรียนรู้ในระดับตำบล 200 แห่ง ห้องสมุดมีชีวิตในโรงเรียน รวม 76 แห่งใน 76 จังหวัด และห้องสมุดมีชีวิตในค่ายทหาร 20 แห่ง รวมทั้งยังได้ร่วมมือกับองค์กรต่างๆ ในการสนับสนุนสื่อการเรียนรู้ อาทิ การสนับสนุนสื่อการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ให้กับห้องสมุดพร้อมปัญญา กรมราชทัณฑ์ และห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารีทั่วประเทศ ของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
“ผมวางเป้าหมายสำหรับการทำงานของ TK Park ในปีนี้ คือ ปรับองค์กรและการบริการพื้นที่เรียนรู้ใหม่ สู่ ‘ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน’ โดยเน้นเชื่อมโยงทุกช่องทางทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ จากนี้ไป TK Park จะไม่เป็นเพียงผู้ให้บริการห้องสมุดมีชีวิตเท่านั้น แต่จะเป็นผู้ให้บริการการเรียนรู้ที่พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้แก่ผู้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน
นอกจากนั้นเราจะมุ่งเน้นการสร้างสรรค์ ต่อยอดแนวทางและนวัตกรรมการเรียนรู้สู่ทุกช่วงวัย เน้นการสร้างทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 เป็นต้นแบบส่งต่อสู่เครือข่ายต่อไปเพื่อพัฒนาทักษะแห่งอนาคตของเด็กไทย ผ่านเทคโนโลยีการเรียนรู้ที่เข้ากับโลกสมัยใหม่ สอดคล้องกับเทรนด์โลก” ผอ.ทีเคพาร์คย้ำ