แม้ว่าในยุคนี้ อัตราการใช้งาน mobile banking จะเติบโตขึ้น ด้วยไลฟ์สไตล์และความสะดวกสบาย ซึ่ง TMB ก็ถือว่าเป็นธนาคารแรกๆ ที่นำรูปแบบดิจิทัลเข้ามาใช้ทั้งออนไลน์แบงกิ้ง โมบายแบงกิ้ง เพื่อไม่ต้องเพิ่มต้นทุนในการทำสาขา และการหักดิบแบบนี้มาตั้งแต่ 6 ปีก่อน ทำให้ในวันนี้ทีม TMB มั่นใจว่าตนเองเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในกลุ่มนี้แล้ว
มิ่งขวัญ พัฒนวงศ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารส่งเสริมการตลาดลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบี และ ME by TMB เผยว่า การเปิดตัวด้วยบัญชีเงินฝากดิจิทัล ภายใต้คอนเซปต์ “ให้ลูกค้าได้ทำธุรกรรมการเงินด้วยตนเองเพื่อผลตอบแทนที่มากกว่า” ซึ่งปัจจุบันเรียกว่าบัญชี ME SAVE ทำให้วันนี้สามารถต่อยอดบริการใหม่ ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ Balance Sweep ช่วยบริหารเงินให้ลูกค้า ปัดเงินอัตโนมัติจากบัญชี ME MOVE รวมทั้งยังเพิ่มผลประโยชน์ ดอกเบี้ยสูงสุด 4.5 เท่าและปลอดค่าธรรมเนียม 100% ธนาคารจึงตั้งเป้าหมายภายในสิ้นปี มีลูกค้าเปิด 40,000 บัญชี
ปัจจุบัน ME มีลูกค้าที่เปิดบัญชี ME SAVE แล้วกว่า 300,000 บัญชี ในขณะที่สัดส่วนของลูกค้าในกรุงเทพและปริมณฑลอยู่ที่ 72% และต่างจังหวัด 28% จึงตั้งเป้าหมายการเติบโตของบัญชี ME SAVE คือ 20% จากฐานลูกค้าปีที่แล้ว ซึ่งมีลูกค้าใหม่ที่เปิดบัญชี ME SAVE แล้วกว่า 29,000 บัญชี คิดเป็น 48% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้
ทั้งนี้ ME ยังคงเน้นตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อให้ลูกค้า ME ได้มากกว่าเสมอ ภายใต้คอนเซปต์ “ME is MORE” โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ปลดล็อคค่าธรรมเนียมการโอนต่างธนาคารที่ผูกไว้กับบัญชี ME SAVE สูงสุด 3 บัญชีได้ฟรี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ทำให้ลูกค้าคล่องตัวมากขึ้น และมียอดทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นจากปกติถึง 10%
ดร. เบญจรงค์ สุวรรณคีรี หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ME by TMB ผู้รับผิดชอบด้านกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และบริการ กล่าวเพิ่มเติมว่า บัญชี ME MOVE เป็นบัญชีเพื่อการใช้จ่ายดิจิทัล ที่มุ่งเน้นการทำธุรกรรมด้านใช้จ่ายในรูปแบบต่างๆ ที่มีอยู่ในชีวิตประจำวัน เช่น การโอนเงิน การชำระค่าสินค้า ค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น
เทคโนโลยี Balance Sweep
ความพิเศษของบัญชี ME MOVE คือ มีเทคโนโลยีอัจฉริยะ Balance Sweep ช่วยบริหารเงินให้ลูกค้า โดยปัดเงินคงเหลืออัตโนมัติไปรับดอกเบี้ยสูงกับ บัญชี ME SAVE เพียงลูกค้ากำหนดยอดเงินคงเหลือแค่พอใช้จ่ายในบัญชี ME MOVE และตั้งค่า Sweep เงินได้ทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ส่วนที่เกินจากยอดเงินที่กำหนดไว้จะถูกโอนอัตโนมัติ ณ สิ้นวันไปเก็บที่บัญชี ME SAVE ทันที เพื่อรับดอกเบี้ยสูง 1.7% ต่อปี หรือ 4.5 เท่าของออมทรัพย์ทั่วไป นับเป็นครั้งแรกของวงการแบงก์ในประเทศไทย
สำหรับในเฟสแรก ME MOVE จะเปิดให้บริการเปิดบัญชีผ่าน ME by TMB Application และการโอนเงินออกไปยังบุคคลอื่น ธนาคารใดก็ได้ รวมถึงโอนเงินแบบ PromptPay โดยไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ และมีเทคโนโลยี Balance Sweep ที่ช่วยปัดเงินคงเหลืออัตโนมัติจากบัญชี ME MOVE ไปเก็บยังบัญชี ME SAVE เพื่อรับดอกเบี้ยสูง
หลังจากนั้นในเฟสต่อไปจะมีการเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้สะดวกมากขึ้น เช่น การชำระค่าสินค้า ค่าสาธารณูปโภค (Bill Payment) เติมเงิน (Top-ups) ตลอดจนนวัตกรรมเพื่อการใช้จ่ายอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การชำระเงินผ่านระบบ Contactless payments การชำระเงินด้วย QR code และการถอนเงินจากตู้ ATM โดยไม่ใช้บัตร (Card-less ATM withdrawals) เป็นต้น”
เพิ่มโอกาสเข้าถึงเจนวาย
การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้ายุคดิจิทัลได้อย่างตรงจุด ซึ่งมีความแตกต่างจากดิจิทัลแบงก์กิ้งทั่วไป คือ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการจากดิจิทัล Process ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงวิธีการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งไม่ใช่เพียงการนำระบบที่สาขามาไว้ในแอปพลิเคชั่น หรือออนไลน์ แล้วในที่สุดลูกค้ายังต้องไปทำธุรกรรมทุกอย่างที่สาขาเหมือนเดิม
ดังนั้น ผลิตภัณฑ์และบริการของ ME ที่ถูกพัฒนาออกมานั้นจะต้องง่าย และสามารถใช้งานได้จริงโดยคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเป็นหลัก บวกกับความคล่องตัวที่ต้องทำได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่จำเป็นต้องไปสาขาเลย สามารถทำทุกอย่างได้บนแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคดิจิทัลปัจจุบัน
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบริการที่สร้างความหนักใจให้กับคู่แข่งที่เพิ่งเข้ามาให้บริการด้านดิจิทัลออนไลน์แน่นอน แม้ตัวเลขตั้งเป้าและจำนวนลูกค้าของ ME จะไม่ได้สูงเท่ากับยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมนี้ แต่การมีนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาช่วยตอบสนองไลฟ์สไตล์น่าจะช่วยเพิ่มโอกาสของธนาคารในการมีโอกาสใหม่ๆ มากขึ้น