จับตา Toys ‘R’ Us แบรนด์ค้าปลีกของเล่นที่เคยล้มละลายในสหรัฐฯ กำลังจะกลับมาสู่แดนลุงแซมด้วยภาพแบรนด์ที่ไฮเทคกว่าเดิม เชื่อว่าจะจัดเต็มแข่งขันกับ Amazon และ Walmart รวมถึง Target ด้วยไอเดีย retail as a service บนคำการันตีว่าร้าน Toys ‘R’ Us ยุคใหม่จะล้ำสมัยกว่าทุกร้านในวงการค้าปลีกทั่วโลก
หลังจากที่อำลาแฟนคลับไปช่วงหนึ่ง Toys ‘R’ Us ต้นสังกัดตัวการ์ตูน Geoffrey the เริ่มส่งสัญญาณพร้อมกลับมาเพื่อกู้สถานการณ์การประกาศล้มละลายเมื่อปีที่แล้วจนปิดร้านค้ากว่า 800 แห่งทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา ข่าวล่าสุดคือ Toys ‘R’ Us จะเปิดร้านค้าถาวร 2 แห่งในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อให้ทันเทศกาลจับจ่ายปลายปี โดยร้านค้า 2 แห่งจะตั้งขึ้นที่ Galleria Mall ในรัฐฮูสตันและ Garden State Plaza ในรัฐนิวเจอร์ซีย์
เพื่อดึงตัวเองให้พ้นจากการล้มละลาย Toys ‘R’ Us จึงปิ๊งไอเดียสถาปนาตัวเองขึ้นใหม่ในตลาดของเล่นที่มีการแข่งขันสูงมาก ด้วยการเพิ่มมุมมองไฮเทคลงไปผ่านความร่วมมือที่ Toys ‘R’ Us จะจับมือกับบริษัท b8ta ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่เชี่ยวชาญด้านประสบการณ์ค้าปลีกยุคใหม่ โดยทั้งคู่จะเป็นเจ้าของโครงการใหม่นี้คนละ 50%
เตรียมพบร้านใหม่ Toys ‘R’ Us
ตามรายงานของ CNBC คาดว่าร้านใหม่ Toys ‘R’ Us จะเปิดได้มากกว่า 10 สาขาทั่วสหรัฐอเมริกาในปี 2020 และอาจนำร้านหลักในนิวยอร์กซิตี้กลับมาให้บริการได้ด้วย
ที่ผ่านมา Toys ‘R’ Us ลงมือสร้างแบรนด์บนความต้องการเป็น “ร้านขายของเล่นที่ใหญ่ที่สุดที่มี” แต่ร้านใหม่ของ Toys ‘R’ Us จะเน้นสอดคล้องกับความเป็นจริงล่าสุด คือการกระชับพื้นที่ให้มีขนาดเล็กลง รายงานระบุว่าร้านใหม่ Toys ‘R’ Us จะมีขนาดระหว่าง 6,500 ถึง 10,000 ตารางฟุต เรียกว่าคนละไซส์เมื่อเปรียบเทียบกับขนาด 40,000 ตารางฟุตของร้าน Toys ‘R’ Us ในยุคก่อน
สำหรับของเล่นและแบรนด์ที่จะวางขายในร้านเล็กกระทัดรัดของ Toys ‘R’ Us นั้นยังไม่ชัดเจน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฐานะล้มละลายของ Toys ‘R’ Us ทำให้การหาพันธมิตรเพื่อนำสินค้ามาวางจำหน่ายก่อนนั้นเป็นเรื่องไม่ง่าย ทางออกจึงอยู่ที่ b8ta ซึ่งจะนำเทคโนโลยีและร้านค้าของบริษัทมาวางจำหน่ายในรูปแบบการฝากขายที่ Toys ‘R’ Us
ให้บริการค้าปลีก
b8ta เรียกโมเดลนี้ว่า “retail as a service” หรือเป็นการให้บริการการค้าปลีกแบบเบ็ดเสร็จโดยที่เจ้าของสินค้าไม่ต้องยุ่งเรื่องการค้าปลีก จุดเด่นคือแบรนด์ของเล่นสามารถจ่ายเงินเพื่อสร้างร้านค้าขนาดเล็กของตัวเองภายในพื้นที่ของ Toys ‘R’ Us และจากนั้นก็รับยอดขายแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยเมื่อลูกค้าซื้อในร้านหรือออนไลน์
แนวคิด “การให้บริการงานค้าปลีก” นี้เกิดขึ้นบนความหวังว่า Toys ‘R’ Us จะช่วยให้เด็ก ๆ และผู้ปกครองสามารถค้นพบหรือคลุกคลีกับของเล่นใหม่ได้ง่าย และยังช่วยให้แบรนด์นำเสนอสินค้าต่อผู้ชมที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะแปลการนำเสนอนั้นเป็นยอดขายได้ในที่สุด
“ร้านค้าใหม่ของ Toys ‘R’ Us จะเป็นร้านค้าที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าที่สุดในโลก เราหวังว่าจะสร้างความประหลาดใจและสร้างความสุขให้กับเด็กทุกช่วงอายุ” ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ b8ta ชื่อ Vibhu Norby กล่าวในแถลงการณ์
สำหรับ b8ta นั้นเป็นบริษัทดาวรุ่งอนาคตไกลที่แบรนด์ค้าปลีกอย่าง Macy’s เข้าซื้อหุ้นส่วนน้อยของบริษัท บนความเชื่อมั่นว่าไอเดียของ b8ta จะทำให้ Macy’s กู้สถานการณ์ตัวเองได้บ้างในยุคที่วงการค้าปลีกต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างหนัก สำหรับกรณีของ Toys ‘R’ Us เชื่อว่าอดีตเจ้าพ่อร้านของเล่นจะวางเดิมพันให้มุมมองด้านเทคโนโลยีสามารถทำให้ Toys ‘R’ Us ได้เปรียบในการแข่งขันกับ Amazon และ Walmart รวมถึง Target ในตลาดของเล่น
ที่มา: : FastCompany