ด้วยอัตราการเพิ่มขึ้นสตาร์ทอัพทั่วโลก ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่เหล่าสตาร์ทอัพอยากมาเริ่มต้นธุรกิจ ดังนั้น การปั้น Cybertech ให้เกิดขึ้นนั้น เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรูปธรรมด้านโครงสร้างพื้นฐานของสตาร์ทอัพไทย ที่จะเริ่มต้นด้วยฝีมือของเอกชน
Silicon Valley ของไทย
แน่นอนว่าเอกชนที่เข้าใจวงการสตาร์ทอัพและมีเงินทุนสูง คงหนีไม่พ้นกลุ่มทรูคอร์ปอเรชั่น ส่วนคนที่เข้ามานั่งบริหารและดูแลโครงการ True Digital Park ก็คือเด็กปั้นของศุภชัย เจียรวนนท์ อย่าง ฐนสรณ์ ใจดี สำหรับ True Digital Park แห่งนี้ ถูกเรียกว่าเป็น Bangkok Cybertech District ซึ่งจะเป็น Landing Pad ที่เอื้อประโยชน์ในการทำงานแก่ชาวสตาร์ทอัพทั่วโลก
สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีงานแถลงข่าวเปิดตัว Bangkok Cybertech District ว่า การสนับสนุนนวัตกรรมและประเทศไทยให้ก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 อย่างแท้จริงนั้น จะต้องเริ่มต้นตั้งแต่อีโคซิสเต็มพื้นฐานอย่างการสร้างศูนย์รวมทางด้านนวัตกรรม
และการดึงพาร์ทเนอร์รายใหญ่อย่าง Google เข้ามาถ่ายทอดความรู้ ไม่ใช่เรียนรู้เอาเอง ครั้งนี้ถือว่าเป็น Game Changer หรือ ตัวเปลี่ยนเกมประเทศไทย ที่ไม่ใช่แค่การแข่งขันกันออก Product แต่เป็นการวางรากฐานให้ประเทศในการปลุกปั้นสตาร์ทอัพไทยให้เติบโตระดับโลก
ทางด้านของ ฐนสรณ์ ใจดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรู ดิจิทัลพาร์ค เล่าว่า ในสิ้นปีนี้จะมีการเปิดให้ใช้งานในส่วนของ Public space ก่อน จากนั้นจะมีบริษัทต่างๆค่อยๆ ทยอยเข้ามา โดยมีพาร์ทเนอร์จองเช่าพื้นที่คึกกว่า 70% ที่เหลืออีก 30% จะเป็นทีม digital tech talent ของกลุ่มทรูเข้ามานั่งทำงานที่นี่
ทั้งนี้ นอกจาก Google ที่มาทำ Google Academy ซึ่งเป็นแห่งที่ 2 ในโลก มีโอกาสที่สตาร์ทอัพไทยจะได้สัมผัสประสบการณ์ทำงานและการถ่ายทอดความรู้จากบริษัทชั้นนำระดับโลก ก็ยังมีบริษัทชั้นนำมากมาย อย่าง Amazon, UOB, NIA, Depa, PIM, เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, Mu Space และ VC ชั้นนำระดับโลก ที่จะเข้ามาเปิดตัวเพิ่มเติมอีก เร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม True Digital Park แห่งนี้ จะมีอีโคซิสเต็มส์ที่เอื้อประโยชน์การใช้ชีวิตแบบ Smart ทั้ง Smart Retail, Smart Digital, Smart People และ Smart Security ข่าวดี คือ จะเริ่มเปิดให้ไปสัมผัสประสบการณ์ชีวิตแบบดิจิทัลในช่วงปลายปีนี้ ในส่วนของ Co-Working Space และ Community ต่างๆ คาดว่าจะมีผู้เข้ามาใช้งานไม่น้อยกว่าหลักหมื่นคนต่อวัน ส่วนออฟฟิศบริษัทชั้นนำ คาดว่าจะเปิดเข้ามานั่งทำงานอย่างเป็นทางการในปี 2019