แอสเซนด์ มันนี่ ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าธุรกรรมทางการเงินปี พ.ศ. 2560 ผ่านแพลตฟอร์ม True Money ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่า มีมูลค่ารวมสูงถึง 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเติบโตขึ้นจากปี พ.ศ. 2559 ถึง 400% และในปี 2560 มีจำนวนผู้ใช้บริการ True Money ใน 6 ประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า 21.1 ล้านคน

ทั้งนี้ มูลค่าของการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านบริการต่างๆ ของแอสเซนด์มันนี่ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตเป็นสัดส่วนสูงที่สุด คิดเป็นอัตราเกือบ 50% ของมูลค่าธุรกรรมทั้งหมดผ่านบริการต่างๆ ของบริษัท

ขณะที่ในตลาดอื่นๆ มีมูลค่าการใช้จ่ายเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญถึง 460% โดยประเทศกัมพูชามียอดการทำธุรกรรมผ่านบริการของแอสเซนด์ มันนี่ คิดเป็น 10% ของจีดีพีประเทศ

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า บริการ “TrueMoney Wallet” ให้บริการหลากหลาย ทั้งเติมเงินโทรศัพท์มือถือ ซื้อดิจิทัลคอนเทนท์ โอนเงินระหว่างบุคคล (หรือ P2P) และบริการจ่ายเงินซื้อสินค้าในห้างร้านต่างๆ ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ใช้งาน TrueMoney Wallet เป็นประจำเติบโตสูงราว 4 เท่า ถือเป็นผู้นำหนึ่งเดียวในอุตสาหกรรมกระเป๋าเงินดิจิทัลในตลาดเมืองไทย

เพิ่มโอกาสใช้จ่าย

True Money ให้บริการรูปแบบไฮบริด โดยมีทั้งบริการด้านการเงินออนไลน์ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการทำธุรกรรมออฟไลน์ผ่านเครือข่ายตัวแทน

ทั้งนี้ ประชากรประมาณ 50-80% ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังไม่มีบัญชีธนาคารเป็นของตนเอง ซึ่งบริการแบบไฮบริดแพลตฟอร์มเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับการให้บริการด้านการเงินแก่คนที่ไม่มีบัญชีหรือเข้าไม่ถึงบริการของธนาคาร 

นอกจากนี้ ในมุมของผู้ใช้บริการและเศรษฐกิจระดับชุมชนที่เข้าถึงนวัตกรรมทางการเงินที่สำคัญๆ อย่างแรงงานก็ยังสามารถใช้จ่ายเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีวอลเล็ทบนโทรศัพท์มือถือ ส่งเงินกลับไปให้ครอบครัวพวกเขาที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล หรือแม้แต่ส่งเงินให้ครอบครัวที่อยู่ในต่างแดน ที่สำคัญที่สุดคือการได้ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนท้องถิ่นได้ด้วย

เรียกได้ว่า บริการทรูวอลเลตช่วยลดปัญหาทางการเงินได้หลากหลายเลยนะคะ เชื่อได้ว่าในอนาคตจะยิ่งทำให้คนไทยไม่จำเป็นต้องพกเงินสดกันแล้ว แค่มือถือเครื่องเดียวก็ใช้จ่ายได้อย่างสะดวกครบทุกอย่างเลย