การเลือกตั้งสหรัฐ ปี 2020 จัดขึ้นในวันที่ 3 พ.ย. เป็นการต่อสู้ระหว่าง ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” จากพรรครีพับลิกัน กับ “โจ ไบเดน” ตัวแทนจากพรรคเดโมเครต อดีตรองประธานาธิบดีในสมัยของ “บารัค โอบามา” ซึ่งมีนโยบายแตกต่างกันทั้งด้านการค้าระหว่างประเทศ ภาษี สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม รวมถึงมุมมองด้านเชื้อชาติและการเหยียดสีผิว
ปฎิเสธไม่ได้ว่าการเคลื่อนไหวของสหรัฐอเมริกายังคงมีอิทธิพลต่อทุกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ซึ่งล้วนแล้วแต่มาจากการตัดสินใจของประธานาธิบดีสหรัฐ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงควรจับตาดูเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์นี้
ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” วัย 74 ปี สังกัดพรรครีพับลิกัน ตั้งเป้าเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ด้วยสโลแกน “Keep America Great” มุ่งเน้นนโยบายการจ้างงาน พัฒนานวัตกรรม และลดภาษีนิติบุคคล
เศรษฐกิจ
สร้างงานให้กับคนอเมริกา สร้างธุรกิจขนาดเล็กใหม่ๆ ลดภาษีเงินได้และลดหย่อนภาษีให้กับบริษัทต่างๆ
นโยบายต่างประเทศ
เพิ่มงบประมาณให้กองทัพและเดินหน้าเก็บภาษีทางการค้ากับประเทศจีนต่อไป
สิ่งแวดล้อม
ไม่เชื่อในภาวะโลกร้อน สนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงานฟอสซิลและถ่ายหินต่อไป
ปัญหาเหยียดผิวและเชื้อชาติ
ไม่เชื่อว่าการเหยียดผิวเป็นปัญหา เชื่อในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด แต่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง
ส่วนด้าน “โจ ไบเดน” อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ วัย 77 ปี สังกัดพรรคเดโมแครต ชูสโลแกน “Restore the Soul of America” มุ่งเน้นนโยบายด้านการศึกษา เก็บภาษีนายทุน และฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
เศรษฐกิจ
สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการผูกขาดของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่
นโยบายต่างประเทศ
ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศคู่ค้า เดินหน้าเจรจากับจีนและยกเลิกการเก็บภาษีฝ่ายเดียว
สิ่งแวดล้อม
เข้าร่วมความตกลงปารีสและทำให้สหรัฐฯเป็นประเทศปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2050
การเหยียดผิวและเชื้อชาติ
ต่อต้านการเหยียดสีผิว มองว่าเป็นปัญหาทางโครงสร้าง เสนอให้มีนโยบายที่ความเท่าเทียมและยุติธรรม