เข้าสู่ไตรมาสที่ 2 ของปี ที่หลายบริษัทเริ่มประกาศผลประกอบการออกมาเพื่อดูทิศทางของการเดินหน้าธุรกิจ โดยทั้ง 3 บริษัทอย่าง LG, Thaicom และ AIS ที่บ่งบอกให้รู้ว่าโอกาสของกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครือข่ายยังมีทิศทางการเติบโตที่ดี
LG
แอลจี อีเลคทรอนิคส์ อิงค์ (แอลจี) เผยรายได้ยอดขายรวมทั่วโลกของกลุ่มบริษัทมีมูลค่า 13.9พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4.59 แสนล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่สองประจำปี 2561 มูลค่า 715.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2.36 หมื่นล้านบาท โดยยอดขายไตรมาสที่สองเติบโตขึ้น 3.2 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ ผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 16.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
ทางด้านของยอดขายและกำไรจากการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 ล้วนแต่มีมูลค่าสูงสุดในประวัติการณ์ รายได้เพิ่มขึ้น 3.2% ต์จากช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 เป็นมูลค่า 2.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 9.24 แสนล้านบาท และรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 18.5% คิดเป็นมูลค่า 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 5.61 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ผลกำไรที่แข็งแกร่งมาจากกลุ่
THAICOM
ทางด้านของ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการดาวเทียมไทย เอง ก็รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2561 พบว่า มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 2,115 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 345% จาก 475 ล้านบาท ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2560 ซึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้กำไรจากการขายหุ้นของ บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) ในไตรมาส 1/2561 เป็นจำนวน 1,950 ล้านบาท ในขณะที่รายได้จากการขายและการให้บริการสำหรับช่วงหกเดือนแรกของปี 2561 อยู่ที่ระดับ 2,999 ล้านบาท ลดลง 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามแนวโน้มอุตสาหกรรมดาวเทียม
ด้านผลประกอบการเฉพาะไตรมาส 2/2561 บริษัทรายงานกำไรสุทธิที่ 251 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 16% จาก 216 ล้านบาทในไตรมาส 2/2560 แม้รายได้จากการขายและการให้บริการลดลงราว 7% ทั้งนี้ การปรับตัวสูงขึ้นของกำไรสุทธิเป็นผลมาจากการลดลงของค่าเสื่อมราคาตามการบันทึกด้อยค่าของสินทรัพย์ดาวเทียมในช่วงไตรมาส 4/2560 และการบริหารค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพของบริษัท
AIS
ทางด้านของ AIS เผยผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2561 พบว่า มีกำไรสุทธิ 16,042 ล้านบาท และรายได้รวมเติบโตขึ้น 6.7% จากปีก่อน เป็นผลมาจากทั้งบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน AIS Fibre
สำหรับภาพรวมในครึ่งแรกของปี 2561 AIS มีรายได้รวมเติบโตขึ้น 6.7% จากปีก่อน ขณะที่รายได้หลักจากการให้บริการเพิ่มขึ้น 4.9% จากปีก่อน เป็นผลมาจากทั้งบริการอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือและธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน AIS Fibre
ปัจจุบัน AIS มีผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือ 4G คิดเป็นสัดส่วน 54% ของฐานลูกค้าทั้งหมด 40.1 ล้านเลขหมาย ขณะที่การใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้นเป็น 8.9 กิกะไบต์ต่อเดือน จาก 4.7กิกะไบต์ต่อเดือน ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
สำหรับธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน AIS Fibre มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 623,400 และมีรายได้เพิ่มขึ้น 64% จากปีก่อน ส่งผลให้ในครึ่งแรกของปี 2561 AIS มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 16,042 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.6% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2561อยู่ที่ 8,005 ล้านบาท
จากภาพรายได้จะเห็นว่าโอกาสของธุรกิจประเภทเทคโนโลยีและอุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายมีทิศทางที่ดี แม้การคาดการณ์ตลาดสมาร์ทโฟนจะถดถอยแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสินค้ากลุ่มอื่นๆ จะลดลงด้วย เพราะสินค้าประเภท IOT หรือ TV ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคอย่างน่าสนใจ