Ben Truscello เป็นผู้ที่นั่งเก้าอี้ Head of Twitter Data for Global Brands & Agencies ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งเพิ่งเข้าสู่ฐานที่มั่นในสิงคโปร์เมื่อ 8 เดือนที่แล้ว ล่าสุด Ben ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CampaignAsia ถึงความมั่นใจว่า Twitter กำลังมีโอกาสทองรออยู่ในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการข้อมูลเชิงลึกสำหรับแชร์กับแบรนด์และเอเจนซี่ทั่วโลก
บทสรุปจากวิสัยทัศน์นี้น่าสนใจ เพราะผู้บริหาร Twitter มองว่าระบบและเทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัทจะตอบโจทย์ทั้งแบรนด์ท้องถิ่นและแบรนด์ระดับโลก โดยแรงผลักดันสำคัญมาจากความคิดของผู้บริหารและนักการตลาดยุคนี้ ที่เข้าใจถึงคุณค่าของข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น
Ben บอกว่าภาพของ Twitter ในฐานะแพลตฟอร์มโฆษณาที่สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่นั้นชัดเจนมาก แม้ว่าบริษัทระดับโลกหลายแห่งจะลงมือตั้งสำนักงานที่เอเชียแปซิฟิก แต่ “unique nature” ของข้อมูลที่ Twitter มีนั้นทำให้หลายบริษัทให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นข้อมูลที่เฉพาะทางมากสำหรับภูมิภาคนี้ ทั้งหมดนี้ Ben ยืนยันว่าไม่ได้มโนไปเอง แต่ได้ประสานงานกับแบรนด์และเอเจนซี่หลายแห่งถึงคุณค่าที่นักการตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะได้รับจากข้อมูลของ Twitter
Ben ระบุว่าหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนคือในภูมิภาคอื่น บริษัทเหล่านี้มักต้องพึ่งพาข้อมูลจากบริษัทอื่นด้วย (third-party data) แต่รูปแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นในภูมิภาค APAC เพราะ Twitter Data สามารถช่วยให้แบรนด์เข้าใจความคิดของลูกค้าได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาข้อมูล third-party data
เรื่องนี้ Scott Hendrickson ประธาน Twitter ระดับโลกฝ่ายงานบริการข้อมูล ยกตัวอย่างไอศกรีมในเครือ Unilever อย่าง Ben & Jerry’s ซึ่งต้องการข้อมูลวิเคราะห์ด้านราคา แต่ด้วยการใช้บริการข้อมูลจาก Twitter บริษัทจึงได้พบว่าผู้คนกำลังพูดถึงการซื้อไอศกรีมไว้ที่บ้านเพื่อตุนไว้ในสัปดาห์ที่ฝนตก กรณีนี้ทำให้ Unilever ค้นพบตลาดที่ตัวเองยังไม่เคยเข้าไปเล่น นั่นคือตลาดช่วงสุดสัปดาห์ที่ฝนตกซึ่งผู้คนจะกักตุนอาหารไว้รับประทานที่บ้าน นโยบายดิจิทัลของ Unilever จึงเน้นที่วันพฤหัสฯและศุกร์ซึ่งได้รับผลตอบรับดีเยี่ยม
ข้อมูลเหล่านี้เป็นการวิเคราะห์จากบทสนทนาที่เกิดขึ้นบน Twitter จุดนี้ทำให้ผู้บริหาร Twitter มั่นใจว่าข้อมูลของตัวเองสามารถสะท้อนความคิดของผู้คนได้แม่นยำ โดยเฉพาะผู้ใช้ในเอเชียแปซิฟิกซึ่ง Twitter สามารถสะท้อนข้อมูลเชิงลึกได้หลากหลาย
ที่มา: CampaignAsia