เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว Twitter ประกาศด้วยการส่งข้อความ tweet ว่าบริษัทได้ทำเรื่องยื่นเพื่อเสนอขายหุ้นครั้งแรกหรือ IPO (initial public offering) อย่างจริงจัง ล่าสุดมีการยืนยันว่าร่างเสนอ IPO ของ Twitter นั้นพร้อมแล้ว ซึ่งคาดว่ายักษ์ใหญ่เครือข่ายสังคมข้อความสั้น 140 ตัวอักษรจะเริ่มประกาศขายหุ้นต่อสาธารณชนในสัปดาห์นี้
VentureBeat ยกคำพูดของแหล่งข่าวไม่ระบุนามจากสำนักข่าว Quartz ว่าการผ่านแผนเสนอ IPO ของ Twitter ครั้งนี้มีกำหนดการที่ใกล้เคียงกับแผนการที่วางไว้ เรียกว่าไม่ได้เจอโรคเลื่อนที่ทำให้การขายหุ้น Twitter ล่าช้าเกินไป
We’ve confidentially submitted an S-1 to the SEC for a planned IPO. This Tweet does not constitute an offer of any securities for sale.
— Twitter (@twitter) September 12, 2013
แหล่งข่าวระบุว่า ช่วงเวลาที่ Twitter วางแผนเริ่มขายหุ้นคือช่วงเวลาก่อนเทศกาลขอบคุณพระเจ้าหรือ Thanksgiving โดยจะเป็นการขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กหรือ New York Stock Exchange อย่างไรก็ตาม การเสนอ IPO ของ Twitter ยังมีโอกาสเกิดเหตุล่าช้าขึ้นได้ทุกเมื่อเนื่องจากมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการประกาศขาย IPO โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของสภาพตลาดที่อาจเกิดขึ้น
การเปิดเผยครั้งนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดหลังจากวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา Twitter ประกาศผ่านข้อความ tweet เป็นครั้งแรกว่าได้ยื่นแบบ S-1 แก่คณะกรรมการหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาหรือ SEC เพื่อเปิดจำหน่าย IPO จุดนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่าข้อมูลนี้ไม่ใช่ข้อมูลใหม่ เนื่องจาก Twitter ได้ยื่นแบบ S-1 ไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคมแล้ว
สำนัก Quartz วิเคราะห์ว่าการที่ Twitter ประกาศเรื่องราวขั้นตอนเสนอ IPO ของตัวเองหลังจากยื่นเรื่องไปนาน 2 เดือนนั้นไม่ได้เป็นไปตามข้อบังคับของกฎหมาย แต่เป็นการจงใจประกาศเรื่องนี้ก่อนที่จะมีรายงานข่าวหลุดบนโลกออนไลน์ ซึ่งวิธีนี้จะสามารถป้องกันการเกิดวิกฤติข่าวลือที่อาจเป็นผลลบต่อบริษัท
อย่างไรก็ตาม Twitter ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดในเอกสารที่ยื่นต่อ SEC คาดว่านานาตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับ Twitter จะถูกประกาศอย่างเป็นทางการทันทีที่ Twitter เริ่มเปิดตลาดหุ้น เมื่อถึงเวลานั้น เอกสารทุกอย่างจะถูกเปิดเผยและโลกจะรู้จัก Twitter มากขึ้นแน่นอน
เบื้องต้น รายงานจาก TheStreet.com เชื่อว่าราคา IPO ของ Twitter จะอยู่ที่ช่วงมูลค่า 28-30 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ซึ่งจะทำให้ Twitter กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดราว 1.5-1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ที่มา: VentureBeat