Site icon Thumbsup

Twitter เปิดสำนักงานใหม่ที่เกาหลีใต้ พร้อมฟีเจอร์ Trends เป็นภาษาเกาหลี

ภาพจาก seoulspace.co.kr

2-3 ปีที่ผ่านมาอิทธิพลที่เป็นกระแสของโลกซึ่งก็พัดมาสู่ไทยด้วย คงหนีไม่พ้น “เกาหลี ฟีเวอร์” ไม่ว่าจะเป็นละคร, เพลง และล่าสุด กังนัมสไตล์ ที่ดังกันไประดับโลกแล้ว แต่ข่าวนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับประเทศกระแสหลักอย่างเกาหลีใต้ ที่ยักษ์ใหญ่ของโซเีชียลมีเดียอย่าง Twitter ได้ไปเปิดสำนักงานสาขาล่าสุดที่นั่นแล้ว

เหตุที่ทาง Twitter เลือกที่จะมาตั้งสำนักงานในแดนกิมจิก็เพราะเล็งเห็นกระแสของโลกที่หันมาสนใจประเทศนี้มากขึ้น และที่สำคัญความดังของกังนัมสไตล์ที่ใช้ Twitter มาเผยแพร่เพลงจนเป็นที่ฮิตระดับโลก รวมทั้งอัตราการเข้าอินเทอร์เน็ตของประชากรในประเทศมีสูงมาก Twitter เลยเล็งเห็นว่านี่เป็นจุดแข็งมากๆ ที่ Twitter จะมาลงทุนทำธุรกิจที่นี่ หลังจากที่ไปลุยมาแล้วในญี่ปุ่นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

โดยมีแผนที่จะขยายธุรกิจภายในประเทศและเพิ่มพันธมิตรกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโทรศัพท์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Samsung และ LG เป็น 2 ผู้เล่นหลักที่สำคัญ, Daum Corp. เวปรวมข้อมูลอันดับสองในเกาหลี และ?LG Uplus Corp.?ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์อันดับ 3 ในเกาหลี?รวมทั้งเหล่าคนดังที่มีอยู่อย่างมากมาย -?Othman Laraki – VP?of Growth, International and Revenue ได้กล่าวในงานแถลงข่าว

ภาพ?Othman Laraki?จาก https://twitter.com/jameskondo

อันที่จริงแล้ว Twitter เริ่มบุกตลาดเกาหลีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว (พ.ศ. 2554) โดยเริ่มเปิดให้บริการภาษาเกาหลี พร้อมกับเริ่มประกาศรับสมัครพนักงานเข้าทำงานและเริ่มมีการให้บริการ Twitter เป็นภาษาเกาหลี และทาง Twitter มีแผนที่จะเริ่มลุยตลาดในประเทศด้วยการตั้ง Trends ซึ่งเป็น feature หนึ่งให้รองรับภาษาเกาหลี รวมถึงจะมีการใช้ hashtag ในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งคาดกันว่าจะช่วยให้คนทั่วไปที่ใช้งานได้รับรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งได้ง่ายขึ้นกว่าเ้ดิมผ่าน Twitter

น่าสนใจว่า Twitter หันมาจับตลาดในแถบเอเชียมากขึ้น ซึ่งสาเหตุคงหนีไม่พ้นความดังและกระแสตอบรับที่ดีของศิลปินดาราจากเกาหลี และส่วนหนึ่งเป็นการหลบปัญหาเศรษฐกิจที่เจอในประเทศแถบยุโรป

แต่ต้องลุ้นว่า Twitter จะสามารถบุกตลาดจีนที่เป็นตลาดใหญ่ที่สุดในเอเชียได้หรือไม่ เพราะนี่ก็เหมือนการตีโอบเข้าใกล้จีนไปเรื่อยๆ แล้ว

ที่มา: The Next Web, YonhapNews