Site icon Thumbsup

คดีแรกโฆษณาออนไลน์? Uber ยื่นฟ้อง Fetch Media ฐานผิดสัญญาการลงโฆษณา

บริษัทเทคโนโลยีที่มีข่าวฮอตมาตลอดทั้งปีอย่าง Uber ล่าสุดได้มีโอกาสเดินขึ้นศาลอีกครั้ง แต่คราวนี้มาในฐานะโจทก์ยื่นฟ้องต่อบริษัท Fetch Media เอเจนซีในเครือ Dentsu เกี่ยวกับการลงโฆษณาที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง รวมถึงเรื่องใบแจ้งหนี้ที่อาจไม่ถูกต้อง โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกาและถือเป็นคดีแรกที่เกี่ยวกับการฉ้อโกงในวงการโฆษณาออนไลน์ด้วย

โดย Uber ได้มีการยื่นฟ้องต่อ Fetch Media เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ทางเอเจนซีโฆษณาดังกล่าวมีการเรียกเก็บเงินค่าโฆษณาออนไลน์จาก Uber สูงกว่าความเป็นจริง รวมถึงการเก็บเงินที่ระบุว่าสามารถเพิ่มยอดการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของ Uber ได้ทั้งที่ไม่เป็นความจริง มากไปกว่านั้นยังพบว่า มีการวางโฆษณาของ Uber ลงในเว็บไซต์ที่ Uber ไม่ต้องการให้ลงโฆษณาด้วย

สำหรับความเสียหายของกรณีนี้ Uber คาดว่าจะมีมูลค่าอย่างต่ำ 40 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจาก Uber ระบุว่า Fetch ควรจะเรียกเก็บเงินได้เฉพาะกรณีที่โฆษณานั้นนำไปสู่การดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของ Uber แต่ในความเป็นจริงแล้ว Uber พบว่า Fetch มีการใช้จ่ายเงินหลายสิบล้านเหรียญสหรัฐไปกับการโฆษณาบนเว็บไซต์ที่ไม่มีคนเข้าชม

โดยหนึ่งในเว็บไซต์ที่ Uber ไม่ต้องการลงโฆษณานั้นคือเว็บไซต์ Breitbart ของสตีฟ แบนนอน อดีตผู้บริหารฝ่ายขวาจัด ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ประจำทำเนียบขาว หนึ่งในที่ปรึกษาใหญ่ใกล้ชิดที่สุดของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งไม่เฉพาะ Uber แต่เว็บไซต์ข่าว Breitbart ยังถูกแบนจากบริษัทต่าง ๆ จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น BMW, Nordstrom ฯลฯ เนื่องจากมีเนื้อหารุนแรง และมีการเหยียดผิวชัดเจน 

อย่างไรก็ดี ในเอกสารฟ้องของ Uber ไม่ปรากฏชื่อของ Dentsu บริษัทแม่ของ Fetch Media แต่อย่างใด

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่า ในแต่ละปี นักการตลาดอาจต้องสูญเงินอย่างน้อย 7 พันล้านเหรียญสหรัฐไปกับการลงโฆษณาออนไลน์ในเว็บที่ใช้บ็อทสร้างทราฟฟิกปลอมขึ้นมา เพื่อหลอกนักโฆษณาว่ามันคือทราฟฟิกที่เกิดจากการเข้าชมของคนจริง ๆ
ส่วนเงินที่ Uber จ่ายไปกับ Fetch นั้น ข้อมูลจากเอกสารที่ยื่นฟ้องระบุว่า ในระหว่างปี 2015 – 2017 นั้น Uber มีการจ่ายเงินให้กับ Fetch ไปมากกว่า 82.5 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว

ที่มา:
BusinessInsider
Bloomberg
WallStreet Journal