Site icon Thumbsup

เหมือนมีคนขับรถส่วนตัว UBER เปิดตัวให้บริการในกรุงเทพฯ แล้ว!

เพราะกรุงเทพมหานครเป็นหนึ่งเมืองที่มีอัตรารถติดค่อนข้างสูง ประกอบกับการหารถโดยสารในประเทศไทยนั้นค่อนข้างเป็นเรื่องยาก และผู้เดินทางนั้นต้องใช้เวลาอยู่บนท้องถนนเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน จะดีแค่ไหนถ้าคุณไม่จำเป็นต้องออกไปยืนต่อรองราคากับรถโดยสาร หรือโดนแท็กซีพานั่งอ้อมเพราะต้องการเรียกค่าโดยสารให้ได้มากที่สุด

เพื่อตอบโจทย์ผู้โดยสารในกรุงเทพฯ ที่ต้องการความสะดวกสบาย UBER จึงได้เปิดตัวหารให้บริการรถโดยสาร ที่ทาง UBER บอกว่าแค่กดปุ่มเดียวเท่านั้นรถก็จะมารับคุณถึงที่ภายในระยะเวลา 10 นาทีเท่านั้น!

หลายๆ ท่านอาจจะเคยเห็นชื่อ UBER ผ่านสื่อต่างๆ มาบ้างแล้ว แต่อีกหลายๆ ท่านก็อาจยังไม่คุ้ยนเคยกับชื่อดังกล่าว UBER คือแอปพลิเคชันที่สามารถใช้งานได้ทั้งสมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ที่สามารถเชื่อมต่อผู้โดยสารเข้ากับคนขับรถ ตอบโจทย์ผู้เดินทางทั้งในแง่ของความสะดวกสบายและความหรูหรามีสไตล์

UBER ได้เปิดตัวให้บริการเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2010 ที่ซานฟรานซิสโก ก่อนขยายตัวไปยังเมืองอื่นๆ ในสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง และในที่สุดก็ได้ขยายการให้บริการออกสู่ประเทศอื่นๆ อย่างเช่น กรุงโซล, ซิดนีย์, สิงคโปร์ และเรื่อยมาจนถึงประเทศไทยในปี 2014 นี้ ซึ่งบริการของ UBER ที่เปิดตัวในระเทศไทยนั้นคือ “UberBlack”

อ่านถึงจุดนี้หลายๆ ท่านอาจสงสัยว่าบริการของ UBER นั้นคล้ายคลึงกับการเรียกรถแท็กซีหรือไม่? ทาง UBER ได้เปิดว่าบริการของพวกเขานั้นไม่ใช่แท็กซี และบริการของพวกเขานั้นแตกต่างจากแอปพลิเคชันประเภทเรียกรถแท็กซีในกรุงเทพฯ แบบไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ เพราะรถที่ให้บริการของ UBER นั้นเป็นรถที่ค่อนข้างมีระดับ เช่น BMW, Mercedez Benz, Honda Accord ฯลฯ อีกทั้งเรื่องของคุณภาพการบริการ ที่จะมีทั้งการเปิดประตูรถ บริการน้ำดื่ม และจะให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้โดยสารสูง

ในการใช้บริการรถโดยสารของ UBER ผู้ใช้บริการสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าวผ่าน App Store หรือ Google Play ก่อนเชื่อมต่อข้อมูลผู้ใช้งานเข้ากับแอปพลิเคชันดังกล่าว ซึ่งผู้โดยสารจะสามารถชำระค่าโดยสารได้โดยไม่จำเป็นต้องพกเงินสดแต่อย่างใด เพียงแค่พวกเขาใช้บัตรเครดิต Visa, MasterCard และ AMEX บัตรเดบิตของธนาคารกุรงเทพฯ ทำให้พวกเขาไม่จำเป็นต้องนั่งหาเงิน นั่งทอนเงินให้วุ่นวาย โดยเมื่อสิ้นสุดการโดยสารพวกเขาจะได้รับใบเสร็จบนอีเมลของพวกเขา

สำหรับอัตราค่าโดยสารภายในประเทศไทยนั้น ค่าโดยสารเริ่มต้นอยู่ที่ 45 บาท และจะเพิ่มขึ้น 2.50 บาททุกนาที และ 9.20 บาทต่อหนึ่งกิโลเมตร ซึ่งค่าโดยสารขั้นต่ำของ UBER ในประเทศไทยนั้นอยู่ที่ 75 บาทฉะนั้นไม่ว่าผู้โดยสารจะเดินทางถึง 75 บาทหรือไม่ พวกเขาก็ต้องจ่ายค่าโดยสารขั้นต่ำที่ 75 บาท ขณะเดียวกันหากพวกเขายกเลิกการโดยสาร พวกเขาจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

>>Sam Gellman, Head of Growth, Asia

สำหรับแผนการขยายตลาดในประเทศไทยทาง UBER เผยว่าพวกเขาเองก็ต้องการขยายการให้บริการในประเทศไทยไปยังหัวเมืองใหญ่อื่นๆ นอกจากประเทศไทยด้วยเช่นกัน แต่ในตอนนี้อาจจะเป็นเรื่องยาก เนื่องจากต้องมีการตกลงกันกับผู้ขับรถ สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ย่านชานเมือง อาจจะยังเป็นเรื่องยากในการที่รถโดยสารจะมารับคุณถึงที่ในระยะเวลา 10 นาทีอีกเช่นกัน เพราะปัจจุบันรถโดยสารส่วนมากนั้นจะให้บริการในตัวเมืองของกรุงเทพเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตามทาง UBER ได้เผยว่าพวกเขาจะเพิ่มจำนวนรถที่ให้บริการเพื่อรองรับการใช้บริการอย่างต่อเนื่องแน่นอน

>> Mike Brown, Regional General Manager, Southeast Asia

อย่างไรก็ตามเรื่องราคาการใช้บริการรถโดยสารของ UBER นั้นอาจจะยังมีราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรถโดยสารปรกติในปัจจุบัน ซึ่งทาง UBER เองก็ได้เผยว่าอันที่จริงแล้ว UBER นั้นมีประเภทของการบริการที่ค่อนข้างหลากหลาย สำหรับบริการเปิดตัวในประเทศไทยตอนนี้คือ UberBlack แต่ที่จริงแล้วในประเทศอื่นๆ UBER นั้นมีรถโดยสารให้ผู้ใช้บริการเลือกได้หลายแบบ และแบบที่ทาง UBER เผยว่าเป็นการบริการที่ประหยัดที่สุดสำหรับผู้ใช้บริการ คือ UberX ซึ่งจะเป็นการให้บริการรถโดยสารแบบทั่วไป แต่อย่างไรก็ตามทาง UBER ยังไม่ได้เผยถึงการเปิดตัวบริการดังกล่าวในประเทศไทยแต่อย่างใด

นอกจากการเปิดตัวบริการของ UBER ในประเทศไทยแล้ว ทาง UBER ยังจะร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลวันปีใหม่ไทยในช่วง 13-14 เมษายนนี้อีกด้วย #UBERSPLASH ซึ่งผู้ใช้บริการจะสามารถเรียกรถปิ๊กอัพของ UBER เพื่อให้มารับคุณและเพื่อนๆ ของคุณขึ้นหลังรถกระบะพร้อมปืนใหญ่ Super Soakers ซึ่งผู้ใช้บริการจะสามารถเรียกใช้บริการดังกล่าวได้ ณ สีลม ถนนข้าวสาร และ RCA

ผู้อ่านท่านใดที่สนใจใช้บริการของ UBER สามารถทดลองใช้บริการด้วยรหัสโปรโมชัน : UBERSAWASDEE เพื่อใช้บริการครั้งแรกฟรีได้ไม่เกิน 300 บาท (หมดเขต 30 เมษายนนี้เท่านั้น!)