Uber ชี้จำนวนผู้สมัครเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมขับยังเติบโตแม้การแข่งขันในตลาด Ride-Sharing จะดุเดือดมากขึ้น ส่วนการมาถึงของ LINE TAXI ไม่ใช่คู่แข่ง ล่าสุด เปิดตัวสองคุณสมบัติใหม่ “เรียกรถให้คนที่คุณรัก” (Request a ride for a loved one) บน Uber และบริการ “สั่งอาหารล่วงหน้า” บน UberEATS แล้ว
โดยในส่วนของบริการสั่งอาหารล่วงหน้าบน UberEATS นั้นยังเป็นเบต้าเวอร์ชันและให้บริการเฉพาะในพื้นที่ กทม. ก่อนเป็นจุดแรก ส่วนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการได้มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัวที่พ่อแม่สามารถวางแผนเมนูอาหารได้ล่วงหน้า
คุณศิริภา จึงสวัสดิ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย Uber กล่าวว่า ปัจจุบัน UberEATS มีร้านค้ามากกว่า 600 ร้านค้าบนระบบ และคิดค่าจัดส่งในอัตราเดียวคือ 30 บาท ส่วนราคาอาหารที่ถูกที่สุดบนระบบคือ 9 บาท โดยไม่มีขั้นต่ำในการเรียก อีกทั้งยังสามารถแสดงประเภทของร้านอาหารให้เลือกได้อย่างสะดวก ในโซนการจัดส่งระยะ 5 ตารางกิโลเมตร
ด้านการเจรจากับภาครัฐอย่างกรมการขนส่งทางบกนั้น Uber ระบุว่า จะครบ 6 เดือนของการศึกษารูปแบบการให้บริการ Ride-sharing ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ซึ่งขณะนี้จึงยังไม่สามารถบอกได้ เพราะอยู่ระหว่างการศึกษาอยู่นั่นเอง
ส่วนการเปิดตัวบริการ LINE TAXI นั้น คุณศิริภาเผยว่า ไม่ใช่คู่แข่งของ Uber และไม่แปลกที่จะมีคนอยากเข้ามาพัฒนาบริการเพื่อเสนอทางเลือกอื่น ๆ ให้กับผู้บริโภค
“ส่วนตัวเชื่อว่า บริการอะไรก็ตามที่ทำแล้วดีต่อผู้บริโภคก็คือดี ซึ่ง Uber เราไม่ได้โฟกัสที่คู่แข่ง เราโฟกัสที่ลูกค้า และพาร์ทเนอร์ร่วมขับ เราเองก็มี UberFLASH บริการใหม่ที่เปิดโอกาสให้แท็กซี่ หรือรถยนต์ประเภทอื่น ๆ เช่น รถกระบะ รถอีโคคาร์ ฯลฯ เข้ามาร่วมให้บริการในระบบได้ โดยเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่่ผ่านมา”
อย่างไรก็ดี Uber ระบุว่ายังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขในส่วน UberFLASH ได้ว่ามีแท็กซี่เข้ามาในระบบแล้วเป็นจำนวนเท่าใด
ส่วนตัวเลขที่สามารถเปิดเผยได้นั้น Uber พบว่า ช่วงเวลาที่มีผู้ต้องการใช้บริการ Uber สูงที่สุดคือวันศุกร์ – เสาร์ระหว่างเวลา 16.00 – 22.00 น. ซึ่งนอกจากตัวเลขค่าเฉลี่ยดังกล่าวแล้ว ในระบบจะมีเทคโนโลยีที่สามารถแนะนำได้ว่า ควรขับในช่วงเวลาไหน และพื้นที่ใดที่มีความต้องการใช้รถสูง รวมถึงมีระบบแจ้งข้อมูลการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ล่วงหน้าเพื่อให้พาร์ทเนอร์ร่วมขับทราบว่า พื้นที่ใด (อาจ) มีความต้องการใช้รถสูงในวันรุ่งขึ้นด้วย (เช่น ย่าน X มีการจัดคอนเสิร์ต เป็นต้น)
ส่วนการเปิดตัวคุณสมบัติใหม่อย่าง “เรียกรถให้คนที่คุณรัก” นั้นถือเป็นครั้งแรกในไทย โดยสามารถเรียกรถให้ไปรับ “บุคคลอื่น” ได้อย่างเป็นทางการครั้งแรก และจะคิดค่าโดยสารจากผู้เรียก โดยที่ฝ่ายที่มีคนเรียกรถให้ไม่ต้องเสียเงินใด ๆ (เฉพาะกรณีตัดจ่ายจากบัตรเครดิต แต่ถ้าจ่ายเป็นเงินสด ผู้เดินทางต้องรับผิดชอบเอง) ซึ่งอาจเหมาะสำหรับลูก ๆ ที่ต้องการเรียกรถให้ไปรับพ่อแม่สูงอายุที่ไม่ถนัดใช้งานเทคโนโลยีได้นั่นเอง
โดยคุณศิริภาเผยว่า เพื่อความปลอดภัย ทางฝั่งผู้เรียกรถจะสามารถมองเห็นทริปการเดินทางได้ทั้งหมด รวมถึงสามารถแชร์ทริปนั้น ๆ ให้ผู้อื่นทราบได้ด้วย ซึ่งคุณศิริภาชี้ว่าทั้งสองคุณสมบัติที่มีการเปิดตัวนี้เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีของ Uber ที่ต้องการ Localize ธุรกิจให้เข้ากับแต่ละตลาดที่ให้บริการให้มากที่สุดนั่นเอง