ด้วยการคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ากว่า 900,000 ล้านบาทจากการส่งออกของภาคเกษตรและอาหาร ส่งผลให้อุตสาหกรรมศักยภาพของไทยอย่างอุตสาหกรรมอาหารนั้นคึกคักมาตลอดตั้งแต่ต้นปี ทั้งมีการเกิดใหม่เพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาด การรีแบรนด์สร้างกระแสเอาใจผู้บริโภค หรือเน้นผลิตเพื่อการส่งออกในโวลุ่มใหญ่ ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณบ่งบอกได้อย่างดีว่าปีนี้เป็นปีทองของอุตสาหกรรมอาหารไทย และแน่นอนว่าเป็นอีกปีที่ต้องทุ่มแรงในการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น
จากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมอาหารทั้งของไทยและทั่วเอเชียมามากกว่า 15 ปี คุณรุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการ-ภูมิภาคอาเซียน บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ผู้ประกอบการไทยนั้นมีวัตถุดิบที่พร้อม ฐานการผลิตที่พร้อม แต่ยังขาดเรื่องของการนำนวัตกรรม เทคโนโลยี หรือส่วนผสมอาหารที่มีคุณภาพเข้ามาใช้ในการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อสร้างมาตรฐาน สร้างเอกลักษณ์ การเพิ่มมูลค่า และความน่าสนใจให้เกิดขึ้นในสินค้า
“การมีสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ดี สะอาด มีมาตรฐาน ยังไม่เพียงพอต่อการแข่งขันทั้งในไทยและส่งออกไปยังต่างประเทศ เนื่องจากสินค้าที่ดีหรือมีมาตรฐานเหล่านี้มีอยู่เต็มตลาด ซื้อแบรนด์อะไรก็ได้ ที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อของเรา ดังนั้น จะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคตรงมาซื้อขนมปังของเรา เพราะความนุ่มที่อยู่ได้นาน หรือเพราะไส้ครีมชีสที่รสชาติอร่อย ทำอย่างไรให้นึกถึงสินค้าของเราเมื่ออยากดื่มชากุหลาบ เพราะมีกลิ่นหอมของกุหลาบจริงๆ ไม่ว่าจะซื้อดื่มที่สาขาไหนก็เป็นรสชาติเดียวกัน มีกลิ่นหอมเท่ากัน หรือจะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคเลือกสินค้าของเราท่ามกลางเครื่องดื่มฟังก์ชั่นแนลดริงค์ที่เรียงรายอยู่ในตู้ ต้องเอากลิ่นลาเวนเดอร์มาใส่เพิ่ม หรือเติมสารอาหารพิเศษที่ช่วยผ่อนคลายทำให้อารมณ์ดี เหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องศึกษาและวางแผนในการผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าอาหารและเครื่องดื่มของตน ซึ่งก็สามารถแก้ไขและหาทางออกได้ด้วยการใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี และส่วนผสมอาหารที่จะเข้ามาเติมเต็มคุณภาพ ช่วยสร้างจุดเด่นให้กับสินค้า”
เพื่อเป็นการสนับสนุนและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารของไทยได้พัฒนาศักยภาพ อัพเดตข้อมูลอุตสาหกรรมอาหาร และเจรจาธุรกิจในระดับนานาชาติ ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จึงได้จัดงานฟู้ดอินกรีเดียนท์เอเชีย 2017 หรือ งานเอฟไอ เอเชีย งานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม ส่วนผสมอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ในระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน 2560 ไบเทค บางนา โดยในครั้งนี้ เป็นการจัดงานครั้งที่ 22 หลังจากประสบผลสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่จากกรุงจากาตาร์ อินโดนีเซีย เมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นการจัดงานสลับกันในระหว่างประเทศที่ตั้งเป้าเป็นครัวโลกกับประเทศที่มีตลาดและผู้บริโภคจำนวนมากที่สุด ซึ่งในปีนี้ มีผู้ตอบรับเข้าร่วมแสดงงานแล้วกว่า 700 ราย จาก 56 ประเทศทั่วโลก และคาดหวังผู้เข้าชมงานกว่า 17,000 ราย โดยงานนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้ประกอบการไทยทั้งขนาดใหญ่ SMEs หรือ Start-Up ที่มีแผนจะพัฒนาต่อยอดธุรกิจ หรือต้องการสร้างคู่ค้าระดับนานาชาติ
“งานฟู้ดอินกรีเดียนท์เป็นงานที่เริ่มจัดในยุโรปเป็นที่แรก เมื่อปี ค.ศ.1986 ซึ่งความสำเร็จของงานในยุโรปนั้นเพิ่มมากขึ้นทุกปีจนในปัจจุบันงานฟู้ดอินกรีเดียนท์เป็นงานปักหมุดที่ทุกคนในอุตสาหกรรมอาหารของฝั่งยุโรปต้องมาร่วมงานเพื่ออัปเดตเทรนด์ นวัตกรรม เทคโนโลยี หรือหาส่วนผสมอาหารใหม่ๆ ไปใช้พัฒนาสินค้าของตน หลังจากความสำเร็จนี้ที่ทุกคนให้การยอมรับ ทางยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) ซึ่งเล็งเห็นถึงศักยภาพการผลิตอาหารของทางฝั่งเอเชียที่มีไม่น้อยไปกว่าใคร จึงได้เริ่มจัดงานฟู้ดอินกรีเดียนท์เอเชียขึ้นในปี พ.ศ.2538 โดยจัดสลับกันระหว่างไทยและอินโดนีเซีย ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารทั่วเอเชีย และประสบผลสำเร็จจนต้องขยายงาน และเพิ่มพื้นที่จัดงานในทุกปี”