เพียง 1 ปีหลังจากเปิดทำการ เอเจนซี่ที่ได้ชื่อว่าเป็น in-house agency ในชายคา Unilever อย่าง U-Studio สามารถขยายเขตการทำงานครอบคลุม 20 ประเทศทั่วโลกแล้ว ความสำเร็จนี้อาจเป็นสัญญาณให้แบรนด์หันมาลงทุนทำเอเจนซี่ด้วยตัวเองมากขึ้นในอนาคต
ก่อนหน้านี้ เรื่องราวของเอเจนซี่ U-Studio นั้นถูกเปิดเผยเพียงเล็กน้อยนับตั้งแต่เริ่มโครงการนำร่องเมื่อกันยายนปีที่แล้ว โดย Greg Paul จากบริษัทวิจัย R3 Worldwide เป็นนักวิเคราะห์รายหลักที่จับตาความเคลื่อนไหวของเจ้าพ่อสินค้าอุปโภคบริโภค เรื่องการขยายขอบเขตการทำงานของเอเจนซี่ไปทั่วโลก
รายงานล่าสุดระบุว่า U-Studio ถูกก่อตั้งเพื่อพัฒนาเนื้อหาดิจิทัลที่มีประโยชน์และเพื่อให้ข้อมูลหรือ “utility and informational digital content” ซึ่งได้แก่วิดีโอเล่าเคล็ดลับ how-to รวมถึง infographic, บทความ และข้อมูลผลิตภัณฑ์ เป็นผลให้ Unilever สามารถลดการจ้างเอเจนซี่ลงได้ครึ่งหนึ่ง จากที่เคยว่าจ้างเอเจนซี่กว่า 3,000 แห่ง
Aline Santos รองประธานบริษัทด้านการตลาดของ Unilever ให้สัมภาษณ์กับ The Drum ถึงการดำเนินงานของ U-Studio ในช่วง 12 เดือนที่บริษัทถูกจัดตั้งขึ้น ว่างานส่วนใหญ่ของบริษัทเน้นงานดิจิทัลพื้นฐานที่จัดการได้ง่าย โดย “งานคิดเชิงกลยุทธ์” ยังคงผูกกับเอเจนซี่รายใหญ่ เช่น MullenLowe, JWT และ Ogilvy
โดยรวม ผู้บริหาร Unilever ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลว่า U-Studio มีขอบเขตงานกว้างขวางเท่าใด รวมถึงจำนวนพนักงานในปัจจุบันว่ามีกี่คน ทั้งหมดนี้มีเพียงข้อมูลว่าจำนวนพนักงานนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณงานในแต่ละช่วง
สิ่งที่เราได้จากข่าวนี้ คือแนวโน้มสำคัญในตลาดเอเจนซี่ วันนี้แบรนด์ตื่นตัวกับการรับเอางานด้านเนื้อหาดิจิทัลที่จัดการได้ง่ายมาดำเนินการเอง โดยอาจไม่ได้จัดงบประมาณจ้างงานเป็นค่าใช้จ่ายประจำ เนื่องจากผู้บริหารบอกว่า U-Studio ไม่ได้มีพนักงาน 20 คน หรือ 200 คน แต่จำนวนคนนั้นปรับเปลี่ยนตามโครงการที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
ที่มา: The Drum