Site icon Thumbsup

ปล่อยพลังสตีฟ จ๊อบส์ ในตัวคุณ : 5 อุปนิสัยของนักคิดผู้มีวิสัยทัศน์

เชื่อว่าผู้นำหลายๆ คน ไม่ว่าจะอยู่ในองค์กรเล็กๆ อย่างสตาร์ทอัป หรือองค์กรใหญ่ๆ ต่างก็อยากเป็นผู้นำที่เปี่ยมไปด้วยวิสัยทัศน์ในสายตาคนอื่น 

รวมไปถึงการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั้งอุตสาหกรรม (และโลก) อย่างสตีฟ จ๊อบส์ อาจจะเป็นเป้าหมายที่ผู้นำทุกคนอยากไปให้ถึงจุดนั้นดูสักครั้ง

แน่นอนว่ามันไม่ง่าย และต้องทำอะไรมากกว่าการนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ มาดูกันว่ามีวิธีใดบ้างที่จะทำให้คนอื่นๆ มองคุณในแบบที่คุณอยากให้เป็น

1. เริ่มต้นด้วยการแสดงให้เห็น ไม่ใช่แค่พูด

ทุกคนมีไอเดีย ไอเดียเป็นเรื่องไม่ยาก และการเอาแต่พูดก็ง่ายยิ่งกว่านั้นเสียอีก เหตุผลที่เรารับฟังผู้นำ ก็เป็นเพราะว่าไอเดียของพวกเขาสามารถนำทางไปสู่ความสำเร็จได้จริง

เพราะการลงมือทำคือรากฐานของการสร้างความน่าเชื่อถือ

เมื่อพิสูจน์ได้ว่าวิสัยทัศน์หรือไอเดียของคุณเป็นไปได้จริง เมื่อนั้นคุณก็จะเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะทำให้คนอื่นๆ ชื่นชมคุณในฐานะผู้นำที่ยอดเยี่ยม เพียงแค่ลงมือทำเท่านั้นเอง

2. อย่ากลัวที่จะทวนกระแส

คนส่วนมากเลือกที่จะเดินตามทฤษฎีการทำธุรกิจ สิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากคนอื่นๆ อาจจะเป็นวิธีที่เรานำมันมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ แต่มันไม่จริงเสมอไป

เพื่อที่จะเป็นนักคิดที่มีวิสัยทัศน์ ต้องมีวิธีที่แตกต่าง และมันแปลว่าคนส่วนมากคงไม่เห็นด้วยกับคุณ ถึงแม้จะพยายามพิสูจน์แล้วว่าคุณมาถูกทาง แต่ขอให้แน่ใจว่าคุณได้เตรียมตัวรับมือกับแรงต่อต้านจากคนอื่นๆ ไว้แล้ว เพราะพวกเขาต้องทำแน่

3. เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ

ตามหาคนที่เชื่อในสิ่งที่คุณทำมาเป็นทีมงาน ในขณะที่ต้องพิสูจน์ความคิดหรือความเชื่อของตัวเอง แน่นอนว่าคุณทำให้ทั้งองค์กรรับฟังคุณไม่ได้ (โดยเฉพาะในกรณีที่ความคิดของคุณมันสวนทางกับคนอื่นๆ)

จงถ่อมตัว และสื่อสารกับคนที่ฟังคุณก่อนเป็นอันดับแรก เพราะถ้าคุณพยายามเริ่มต้นจากส่วนที่อยู่บนสุด คุณจะไม่มีทางออกจากฐานด้านล่างได้เลย

4. ยืนยันในสิ่งที่เชื่อ แม้ไม่มีคนฟัง

ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ไม่เพียงแต่จะมีไอเดียที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น พวกเขายังสามารถสื่อสารความคิดออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ตัวคุณเองก็เช่นกัน ต้องมีความสามารถในการเขียนและพูดเป็นอย่างดี หรือไม่ก็ต้องจ้างใครสักคนที่ทำเรื่องนี้เพื่อคุณได้

อีกเหตุผลที่ควรเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ คือ ไม่เพียงแต่คุณจะมีเวลาขัดเกลาเนื้อหาที่จะพูดเท่านั้น แต่ยังเหลือเวลาให้ฝึกซ้อมอีกด้วย

5. ต้องแน่ใจว่าคุ้มค่าความพยายาม

ถ้าคุณเป็นที่ปรึกษาหรือนักเขียน การถูกมองเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์จะให้ผลตอบแทนโดยตรง ทั้งความเชื่อถือที่ได้รับมากขึ้น มีโอกาสมากขึ้น และได้ค่าตอบแทนมากขึ้น

แต่ในหลายๆ กรณี เมื่อได้รับความชื่นชมมากขึ้น สิ่งที่คุณได้มาอาจจะเป็นแค่ ego เพราะคุณใช้เวลาไปกับการเขียน พูด โปรโมท และสร้างเน็ตเวิร์ก แต่ผลตอบแทน (ที่จับต้องได้) ที่ได้อาจดูเล็กน้อยเกินไป

คิดให้ดีว่าคุณคาดหวังประโยชน์อะไรจากการทำสิ่งเหล่านี้ ถ้าไม่สามารถระบุได้ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่สามารถสร้างประโยชน์ได้จริงจะดีกว่า

ถ้าสิ่งที่ได้กลับมาเป็นแค่ ego หรือความมั่นใจในตัวเองจนเกินไป ก็ไม่ควรเสียเวลากับมันมาก เพราะผู้นำที่มีวิสัยทัศน์จะให้ความสำคัญกับความคิด ไม่ใช่ตัวเอง

ที่มา : Inc.